คำศัพท์การเทรด: ฉบับคู่มือตัวชี้วัด

สิงหาคม 5, 2020

< 1 นาที

ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคมีสิ่งมากมายที่ต้องเรียนรู้ ไม่ว่าจะเป็นตัวชี้วัดประเภทต่างๆ วิธีการทำงาน วิธีนำไปใช้กับกราฟ และการอ่านสัญญาณ นอกเหนือจากนั้น นักเทรดอาจพบกับคำศัพท์ใหม่มากมายที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ วันนี้เราจะมาดู 4 คำศัพท์ที่มีการใช้งานบ่อยเมื่อพูดถึงตัวชี้วัดทางเทคนิค

ตัวชี้วัดนำ (Leading Indicator)

ในทางเศรษฐศาสตร์ คำศัพท์นี้หมายถึงปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงก่อนที่เศรษฐกิจจะเริ่มเป็นไปตามทิศทางนั้น ปัจจัยดังกล่าวเกิดล่วงหน้าเหตุการณ์จริง และพยายามคาดการณ์อนาคต เมื่อเป็นเรื่องของตัวชี้วัดทางเทคนิค ตัวชี้วัดนำจะมอบสัญญาณเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงในตลาดก่อนความเคลื่อนไหวของราคาที่แท้จริงจะเกิดขึ้น ตัวอย่างของตัวชี้วัดดังกล่าวเช่น RSI Stochastic  ADX และออสซิลเลเตอร์อื่นๆ

การใช้ตัวชี้วัดนำมีประโยชน์กับนักเทรด เพราะมอบโอกาสให้นักเทรดมองเห็นว่าตลาดจะมุ่งหน้าไปในทิศทางไหน แต่ตัวชี้วัดเหล่านี้ไม่ได้แม่นยำ 100% และอาจเป็นไปได้ว่าตัวชี้วัดจะให้สัญญาณที่ผิดพลาด นักเทรดที่มีประสบการณ์จะผสมผสานตัวชี้วัดนำกับเครื่องมืออื่นๆ เพื่อผลลัพธ์ที่ดีกว่า

ตัวชี้วัดตาม (Lagging Indicator)

ตัวชี้วัดทางเทคนิคจะอ้างอิงตามสัญญาณจากเหตุการณ์ในอดีต และสะท้อนประสิทธิภาพที่ผ่านมาของสินทรัพย์ ตัวชี้วัดนี้ไม่ได้แสดงความเคลื่อนไหวที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่จะยืนยันทิศทางปัจจุบันของราคา ตัวชี้วัดตามจะถูกผสมผสานกับตัวชี้วัดนำ เนื่องจากตัวมันเองไม่เพียงพอสำหรับการวิเคราะห์กราฟที่ซับซ้อน ข้อเสียของตัวชี้วัดตามคือการตอบสนองต่อตลาดล่าช้า และสัญญาณอาจไม่ตรงเวลาเสมอไป

ตัวอย่างของตัวชี้วัดตามคือตัวชี้วัดเทรดตามเทรนด์ เช่น MACD Fractals และ Bollinger Bands

ช่วงเวลา (Period)

ในการตั้งต่าตัวชี้วัด ไม่ว่าคุณจะใช้ตัวชี้วัดใดก็ตามจะมีการตั้งค่าช่วงเวลาเสมอ แล้วช่วงเวลาคืออะไร? ช่วงเวลาคือจำนวนของแท่งเทียนที่ใช้สำหรับการคำนวณ ยกตัวอย่างเช่น หากนักเทรดกำลังใช้กราฟแท่งเทียนที่แท่งเทียนแต่ละอันหมายถึง 1 ชั่วโมง ช่วงเวลาของตัวชี้วัดจะถูกคำนวณเป็นชั่วโมงด้วยจำนวนแท่งเทียนที่เที่ยงตรงที่นักเทรดระบุ

นี่คือตัวอย่างของการตั้งค่า SMA ช่วงเวลาเริ่มต้นสำหรับตัวชี้วัดนี้คือ 14 หมายความว่าแท่งเทียนหรือกราฟแท่ง 14 อันล่าสุดจะถูกนำไปคำนวณ นักเทรดสามารถกำหนดแท่งเทียนไปที่กรอบเวลาต่างๆ ขึ้นอยู่กับกลยุทธ์ที่นักเทรดใช้ (กรอบเวลาสั้นหรือยาว)

ไดเวอร์เจนท์ (Divergence)

แม้ว่าตัวชี้วัดอาจสร้างกลยุทธ์ที่มีประโยชน์ และเป็นเครื่องมือการวิเคราะห์ที่สะดวก แต่บางครั้งก็ให้สัญญาณผิดพลาดได้เหมือนกัน เมื่อตัวชี้วัดแสดงข้อมูลที่แตกต่างจากกราฟราคาจะเรียกว่าไดเวอร์เจนท์ (Divergence) ซึ่งสามารถเป็นบวกหรือลบก็ได้ โดยมีตัวชี้วัดแสดงค่าที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าสินทรัพย์จริง Divergence สามารถบ่งบอกว่าแนวโน้มปัจจุบันกำลังอ่อนตัวลงและจะเปลี่ยนแปลงเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม การใช้ Divergence เป็นสัญญาณค่อนข้างมีความเสี่ยง Divergence สามารถอยู่ได้เป็นเวลานานและไม่เกิดขึ้นบ่อย นักเทรดต้องฝึกฝนอย่างมากเพื่อเรียนรู้วิธีใช้งานเป็นเครื่องมือการวิเคราะห์

คุณอยากรู้ความหมายของคำศัพท์ในการเทรดอะไรอีกบ้าง? ส่งความคิดเห็นเพื่อบอกให้เรารู้ และเราจะเพิ่มในบล็อกบทความถัดไปของเรา

สิ่งถัดไปที่คุณควรเรียนรู้? หมุนวงล้อเพื่อค้นหา!

rainbow circle

ปัจจัยเศรษฐกิจที่มีผลกับหุ้น: ต้องพิจารณาสิ่งใด

แบ่งปัน

บทความก่อนหน้า

7 หุ้น AI ติดท็อปน่าเทรดปี 2025
7 หุ้น AI ติดท็อปน่าเทรดปี 2025

บทความถัดไป

RSI + SMA + MACD = กลยุทธ์สำหรับทุกตลาด
RSI + SMA + MACD = กลยุทธ์สำหรับทุกตลาด

โพสต์ล่าสุด

7 หุ้น AI ติดท็อปน่าเทรดปี 2025

10.03.2025

วิธีกระจายความเสี่ยงด้วยการเทรด ETF

03.03.2025

Diversify Your Trading with ETFs

เคลื่อนไหวเร็ว ได้ผลลัพธ์ไว – คู่มือเทรดหุ้นระยะสั้น

24.02.2025

Short-term stock-trading

เช็คลิสต์กิจวัตรการเทรด ทำทุกอย่างให้เป็นระบบ

17.02.2025

Effective trading routine

มองหาแนวโน้มที่แข็งแรงด้วยรูปแบบเทรนด์ต่อเนื่อง (Trend Continuation)

10.02.2025

Continuation patterns for trading

Detrended Price Oscillator (DPO) ตัวชี้วัดที่ไม่สนใจแนวโน้ม

31.01.2025

Detrended Price Oscillator