กลับไปที่พื้นฐาน: การเทรดด้วย MACD

พฤษภาคม 15, 2020

2 นาที

คุณอาจรู้แล้วว่า ไม่มีตัวชี้วัดการวิเคราะห์ทางเทคนิค “ที่ดีที่สุด” แต่ละอันมีช่วงเวลาและสถานที่ของตัวเอง แต่หากถามว่าให้เลือกเครื่องมือที่ชอบมากที่สุด นักเทรดส่วนมากจะตอบว่า “MACDMoving Average Convergence Divergence คือตัวชี้วัดติดตามแนวโน้มที่ใช้เพื่อค้นหาแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นขาขึ้นหรือขาลง เป็นหนึ่งในเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประสิทธิภาพสูงสุดและใช้กันทั่วไปเท่าที่เคยสร้างมา ในบทความวันนี้เราจะไปดูกันที่ตัวชี้วัดและเรียนรู้วิธีการนำไปใช้ในการเทรด

อะไรคือ MACD

Moving Average Convergence Divergence จะช่วยคุณค้นหาแนวโน้มที่กำลังเกิดขึ้น ถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเทรดทุกแบบ แต่ก็เหมือนกับตัวชี้วัดอื่นๆ MACD ต้องใช้อย่างถูกต้องเพื่อที่จะได้รับผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม และคุณต้องเข้าใจ ว่าคุณกำลังทำงานร่วมกับอะไร

สรุป MACD คือการผสมของเส้นสองเส้น: ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ช้ากว่า (สีส้ม) และค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่เร็วกว่า (สีฟ้า) ความแตกต่างระหว่างสองเส้นถูกแสดงด้วยแท่งสีแดงและสีเขียว คือคำว่า “ไดเวอร์เจนท์ (Divergence)” และ “คอนเวอร์เจนท์ (Convergence) ในชื่อของตัวชี้วัด ค่าเริ่มต้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่เร็วกว่าถูกคำนวณอ้างอิงตาม 12 ช่วงเวลา ขณะที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ช้ากว่าใช้ 26 ช่วงเวลา

วิธีนำไปใช้ในการเทรด

MACD คือเครื่องมือที่ซับซ้อนซึ่งสามารถใช้ได้หลายวิธี:

อันดับแรก คุณต้องมองหาค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 2 อันตัดกัน เมื่อค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่เร็วกว่าอยู่ข้างบนค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ช้ากว่า บางคนบอกว่าแนวโน้มขาขึ้นกำลังจะเกิดขึ้น ในทางกลับกันเมื่อค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่เร็วกว่าอยู่ข้างล่างค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ช้ากว่า แนวโน้มขาลงกำลังจะเกิดขึ้น นี่คือวิธีธรรมดาที่สุดที่จะใช้ MACD ในการเทรด

 

 

อันดับที่สอง คอยจับตาดูเส้นศูนย์กลางที่ตัดกัน เมื่อค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่เร็วกว่าเคลื่อนที่ไปเหนือเส้นศูนย์กลาง (สีขาว) เป็นไปได้ที่แนวโน้มจะเป็นขาขึ้น และในทางกลับกัน เมื่อค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่เร็วกว่าเคลื่อนที่ไปด้านล่างเส้นฐาน เป็นไปได้ว่าราคาจะลดลง อาจจะไม่ใช้วิธีทั่วไปที่สุดในการใช้ MACD แต่ยังมีประสิทธิภาพ

 

 

สุดท้าย ดูสิ่งที่เรียกว่าไดเวอร์เจนท์ (Divergence) เมื่อพฤติกรรมของราคาและกราฟ MACD แสดงให้เห็นการเคลื่อนที่ตรงกันข้าม แนวโน้มจะกลับตัวในไม่ช้า รูปแบบไดเวอร์เจนท์ (Divergence) bullish เกิดขึ้นเมื่อหลักทรัพย์ก่อตัว lower low และ MACD ก่อตัว higher low รูปแบบไดเวอร์เจนท์ (Divergence) bearish เกิดขึ้นเมื่อหลักทรัพย์ก่อตัว higher high และ MACD ก่อตัว lower high นี่คือเทคนิคขั้นสูงและจะต้องฝึกฝนอย่างมากเพื่อใช้งานอย่างถูกต้อง ถึงกระนั้นก็สมควรได้รับความสนใจจากคุณ

 

 

โปรดทราบว่าตัวชี้วัดทั้งหมด ไม่ว่าจะดีขนาดไหน ก็จะให้สัญญาณลวงได้เป็นครั้งคราว ดังนั้นจึงแนะนำให้ตรวจสอบสัญญาณสองครั้งกับตัวชี้วัดอื่นๆ หรือกรอบเวลาที่แตกต่างกัน (ให้ดีทั้งสองอย่าง)

วิธีการตั้งค่า

การตั้งค่า MACD นั้นง่ายมาก ให้ทำดังนี้:

1. คลิกปุ่ม “ตัวชี้วัด” ที่มุมล่างซ้ายของหน้าจอ

2. ไปที่แท็บ “ยอดนิยม”

3. เลือก “MACD” จากรายการตัวชี้วัดที่มี

4. โดยไม่เปลี่ยนแปลงการตั้งค่า คลิก “ใช้งาน”

และก็พร้อมใช้งาน ตอนนี้เมื่อคุณรู้จักวิธีการตั้งค่าและเทรดโดยการใช้ตัวชี้วัดนี้แล้ว ลองใช้ MACD และเพิ่มไปที่ระบบการเทรดของคุณดู

สิ่งถัดไปที่คุณควรเรียนรู้? หมุนวงล้อเพื่อค้นหา!

rainbow circle

นำกำไรจากการเทรดกลับมาลงทุนต่อ – เป็นกลยุทธ์ที่ดีหรือไม่

แบ่งปัน

บทความก่อนหน้า

ภาพรวมตลาด – สินทรัพย์ที่ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดและราคาลดลงสูงสุดในปี 2024
Best assets of 2024
ภาพรวมตลาด – สินทรัพย์ที่ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดและราคาลดลงสูงสุดในปี 2024

บทความถัดไป

คำศัพท์ในการเทรด: 5 คำศัพท์ที่นักเทรดทุกคนต้องรู้
คำศัพท์ในการเทรด: 5 คำศัพท์ที่นักเทรดทุกคนต้องรู้

โพสต์ล่าสุด

ภาพรวมตลาด – สินทรัพย์ที่ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดและราคาลดลงสูงสุดในปี 2024

17.12.2024

Best assets of 2024

3 กลยุทธ์ที่มีผลกระทบสูงกับการเทรดไบนารีออปชัน

06.12.2024

Best Binary Options Strategies

วิธีขายชอร์ตคริปโต เพื่อทำกำไรในตลาดหมี

25.11.2024

Short selling on the crypto market.

การเทรดช่วงเทศกาลวันหยุด – สิ่งที่ต้องรู้

21.11.2024

Trading on Black Friday and holidays

เหตุใดการพัฒนาจิตวิทยาการเทรดของคุณจึงสำคัญ

20.11.2024

trading psychology

พลังสายรุ้งของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นทวีคูณ

18.11.2024