โลกแห่งการเทรดเต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์ เคยได้ยินเกี่ยวกับตัวชี้วัดที่เหมือนสายรุ้งหรือไม่ ตัวชี้วัด Rainbow Moving Average เป็นการนำ Moving Average แบบง่ายมาปรับใช้ใหม่ ซึ่งค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่คือหนึ่งในเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคที่เป็นพื้นฐานมากที่สุด ตามหลักแล้วจะมีตัวชี้วัดสูงถึง 10 ตัวชี้วัดในอันเดียว และเพิ่มเติมได้อีกหากต้องการ!
ทำไมต้องใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย 10 อันในเมื่อสามารถใช้แค่อันเดียวก็ได้ นั่นเพราะว่าเมื่อมีการใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่หลายอันที่มีช่วงเวลาต่างกัน ค่าเฉลี่ยเหล่านั้นสามารถรวมกันกลายเป็นตัวชี้วัดใหม่ ตัวชี้วัด Rainbow สามารถนำไปใช้กับทุกกรอบเวลาและสินทรัพย์ใดก็ได้ อีกเหตุผลที่น่าใช้ Rainbow MA คือเมื่อนำไปวางบนกราฟราคาจะทำให้กราฟดูสวยงาม
พร้อมเรียนรู้เพิ่มเติมหรือยัง? มาดูหลักการทำงานของเครื่องมือนี้ และวิธีการนำไปใช้กับกราฟราคา
ตัวชี้วัด Rainbow Moving Average ทำงานอย่างไร
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทุกตัวเป็นเครื่องมือติดตามแนวโน้ม Rainbow MA จะผสมผสานค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่มีความยาวแตกต่างกัน ซึ่งทั้งหมดถูกพล็อตบนกราฟราคาเดียวกัน จุดตัดจึงสามารถบอกถึงจุดกลับตัวของราคาและช่วยประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้ม โปรดทราบว่า ยิ่งใช้หลายเส้น ตัวชี้วัดจะยิ่งใช้เวลานานในการแสดง “จุดกลับตัวที่สมบูรณ์” (จุดตัดของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ทั้งหมด)
การใช้ Rainbow MA ทำได้หลายวิธี
ใช้ Rainbow Moving Average เพียงอย่างเดียว
เมื่อนำตัวชี้วัดนี้ไปใช้งานเพียงตัวเดียว ให้ระวังรูปร่างที่เกิดจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ซึ่งจะชี้ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแนวโน้ม ยิ่งเส้นโค้งชัน แนวโน้มยิ่งแข็งแกร่ง ยิ่งเส้นโค้งราบ แนวโน้มยิ่งอ่อนแอ
☝️
ใช้ Rainbow MA ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ
ตัวชี้วัดนี้สามารถนำไปใช้ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น ตัวชี้วัดติดตามแนวโน้ม ในกรณีนี้ เมื่อแนวโน้มแข็งแกร่ง (ตามที่แสดงให้เห็นโดย Rainbow) และตัวชี้วัดที่ใช้กำหนดจุดเข้าเทรดได้ส่งสัญญาณขาขึ้น นักเทรดสามารถพิจารณาเปิดสถานะซื้อ
เมื่อแนวโน้มแข็งแกร่ง (ตามที่แสดงให้เห็นโดย Rainbow) และตัวชี้วัดที่ใช้กำหนดจุดเข้าเทรดได้ส่งสัญญาณขาลง นักเทรดสามารถพิจารณาเปิดสถานะขาย เมื่อแนวโน้มอ่อนแอ นักเทรดมักหลีกเลี่ยงการเปิดสถานะใหม่
Rainbow Moving Average + การดีดตัว (Retracement)
การนำตัวชี้วัด Rainbow Moving Average ไปใช้งานทำได้มากกว่าหนึ่งวิธี ในช่วงที่แนวโน้มแข็งแกร่ง นักเทรดจะมองหาช่วงดีดตัวระยะสั้น ช่วงดีดตัวคือการเปลี่ยนแปลงชั่วคราวของทิศทางราคาสินทรัพย์ เมื่อราคาเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามจากแนวโน้มหลัก ตัวอย่างเช่น ในแนวโน้มขาขึ้น ช่วงดีดตัวอาจเกิดขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์เปลี่ยนเป็นขาลงก่อนจะกลับสู่ทิศทางของแนวโน้มขาขึ้นหลัก
เมื่อมองเห็นช่วงดีดตัว นักเทรดอาจเลือกที่จะเข้าสู่สถานะในทิศทางของแนวโน้มปกติและสวนทางกับช่วงดีดตัว สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจความแตกต่างระหว่างช่วงดีดตัว (การเปลี่ยนแปลงทิศทางของราคาเพียงเล็กน้อยในระยะสั้น) และจุดกลับตัวของแนวโน้มหลัก นักเทรดสามารถใช้เครื่องมือต่างๆ เพื่อประเมินกราฟและหาจุดกลับตัวที่เป็นไปได้ เช่น รูปแบบกราฟเพชร
วิธีตั้งค่า Rainbow MA
หากต้องการตั้งค่าและใช้ตัวชี้วัด Rainbow Moving Average ให้คลิกที่ส่วน “ตัวชี้วัด” ที่มุมซ้ายล่างของหน้าจอและไปที่แท็บ “ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่”
ในหน้าต่างการตั้งค่ามีตัวเลือกมากมาย อย่างแรกคือจำนวนของช่วงเวลาที่จะใช้เพื่อการคำนวณ เมื่อเปลี่ยนแปลงจำนวนของช่วงเวลาจะทำให้สามารถเพิ่มความอ่อนไหวของตัวชี้วัดโดยการลดตัวเลขหรือลดจำนวนสัญญาณหลอกด้วยการเพิ่มจำนวนของช่วงเวลา
สามารถเลือกจำนวนของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ได้ สิ่งสำคัญคือการค้นหาสมดุลที่เหมาะสมระหว่างจำนวนของเส้นโค้งและความง่ายในการใช้งาน ซึ่งนักเทรดส่วนมากจะใช้ 6 ถึง 8 นอกจากนี้ยังสามารถเลือกประเภทของราคา (ราคาเปิด ราคาปิด ราคาสูงสุดหรือราคาต่ำสุด) และประเภทค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่จะมองเห็น ส่วนใหญ่จะนิยมใช้ราคาปิดและ SMA ทั้งสองอย่างเป็นค่าพารามิเตอร์เริ่มต้น
หลังจากเรียนรู้วิธีตั้งค่าและการใช้งาน Rainbow Moving Average สำหรับการเทรดแล้ว ได้เวลาไปที่แพลตฟอร์มเพื่อทดลองใช้และทำความคุ้นเคย! หากต้องการทบทวนสิ่งที่ได้เรียนรู้จากบทความนี้ ให้ดูคำอธิบายวิดีโอที่อธิบายถึงประเด็นสำคัญต่างๆ