จิตวิทยาการเทรด – เอาชนะความกลัวและความโลภ

กรกฎาคม 22, 2020

< 1 นาที

แม้ว่าความรู้เกี่ยวกับตลาดและกลยุทธ์การซื้อขายจะมีความสำคัญอย่างยิ่ง แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือจิตวิทยาของนักเทรด ซึ่งเกี่ยวข้องกับวิธีควบคุมอารมณ์และความสูญเสีย ในระหว่างวัน นักเทรดอาจประสบกับความรู้สึกเชิงลบมากมาย ไม่ว่าจะเป็นความกลัว ความไม่แน่นอน ความโกรธ ความโลภ ความผิดหวัง อารมณ์ที่แปรปรวนของนักเทรดมือใหม่ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับผลลัพธ์ของการซื้อขาย ซึ่งอาจมีความเสี่ยงกับเงินลงทุน

เมื่อนักเทรดจมอยู่กับวังวนของดีลที่ไม่ประสบความสำเร็จและการตัดสินที่ไม่ถูกต้อง จึงยากที่จะเอาตัวเองออกมาและจัดการกับสถานการณ์อย่างสมเหตุสมผล มาดูองค์ประกอบที่ส่งผลกับจิตวิทยาของนักเทรดและต้องทำอย่างไรเพื่อปรับปรุงตัวเอง

เข้าใจความกลัว

การกลัวว่าจะสูญเสียเงินเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคน แต่ความรู้สึกนี้ยิ่งอันตรายเพราะจะขัดขวางนักเทรดจากการตัดสินใจอย่างมีเหตุผล ยิ่งไปกว่านั้น ความกลัวสามารถเปลี่ยนเป็นความโกรธและการต่อต้านตนเอง สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าความกลัวเป็นปฏิกิริยาธรรมชาติที่มีต่อภัยคุกคาม ความกลัวไม่ได้สะท้อนถึงแรงดึงดูดของสถานการณ์เสมอไป บ่อยครั้งที่ความกลัวมักเป็นความกลัวที่มากเกินไปและไม่จำเป็น

ความกลัวอีกประเภทคือ FOMO ซึ่งเป็นการกลัวที่จะพลาด ซึ่งนำไปสู่การตัดสินใจอย่างรีบเร่งโดยผู้ที่กลัวว่าจะไม่รับประโยชน์จากสิ่งที่ทุกคนรอบข้างกำลังทำอยู่ นักเทรดแบบ FOMO อาจซื้อสูงขายต่ำ เนื่องจากไม่เข้าใจตลาด การตัดสินใจที่เกิดจากอิทธิพลจากความตื่นตระหนกและความสับสน

ความโลภ

อารมณ์ความรู้สึกของนักเทรดอีกระดับคือความโลภ อารมณ์นี้ทำให้นักเทรดมีความเสี่ยงสูงขึ้นเมื่อสามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่น เก็บดีลที่ทำเงินได้ไว้นานขึ้นจนแนวโน้มจะกลับตัวและไม่ได้อะไรเลย เมื่อความโลภถูกเติมเต็มด้วยความกลัวก็สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ร้ายแรง

การเอาชนะความโลภไม่ใช่เรื่องง่าย แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะควบคุมความโลภได้อย่างเต็มที่ นักเทรดมักมีความคิดว่า “ถ้าเปิดดีลอีกครั้งอาจได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม!” แต่การรับรู้และการสะท้อนความคิดดังกล่าวเป็นขั้นตอนจะนำไปสู่แนวทางการซื้อขายอย่างมีสติมากขึ้น

แล้วจะรับมืออย่างไร

การรับมือกับอารมณ์เป็นสิ่งที่ควรให้ความสำคัญ เพื่อให้มีจิตวิทยาการเทรดที่ดี นักเทรดควรสร้างชุดของกฎและติดตามอย่างใกล้ชิด กฎดังกล่าวอาจรวมถึงเป้าหมาย ผลลัพธ์ขั้นสุดท้ายที่นักเทรดตั้งเป้าไว้ เครื่องมือการจัดการความเสี่ยง เช่น การหยุดขาดทุนและการจำกัดยอดคงเหลือการเทรด นอกจากนี้ยังมีคำแนะนำโดยละเอียดเกี่ยวกับแผนการเทรดที่อธิบายถึงเงื่อนไขสำหรับการเข้าและออกจากตลาด นักเทรดสามารถกำหนดจำนวนของการสูญเสียที่ยอมรับได้และผลลัพธ์ที่ต้องการในแต่ละวัน

ชุดของกฎดังกล่าวจะช่วยให้นักเทรดกำหนดมาตรฐานความรับผิดชอบที่อาจใช้เป็นแนวทางในช่วงที่อารมณ์ไม่มั่นคง การใช้กฎชุดนี้มีประโยชน์ในช่วงที่นักเทรดกำลังกลัวหรือโลภ และสามารถประเมินการตัดสินใจของนักเทรดเพื่อทำการเปรียบเทียบกับแผนที่วางไว้

ทำอะไรได้อีกบ้าง

นอกเหนือจากการตั้งกฎแล้ว นักเทรดอาจติดตามประสิทธิภาพและประเมินผลในช่วงระยะเวลาหนึ่ง การติดตามสภาพจิตใจอาจเป็นประโยชน์เช่นกัน เพราะจะช่วยให้สามารถสามารถรับมือกับอารมณ์ที่เป็นอันตรายในอนาคต นักเทรดจำนวนมากจะมองย้อนกลับไปที่กิจกรรมการเทรดและปรับแนวทางปัจจุบันตามวิธีการที่เป็นประโยชน์

ศึกประสบการณ์จากมืออาชีพ จะช่วยควบคุมพฤติกรรมที่ไม่มีเหตุผลในการเทรด นักเทรดมือใหม่อาจต้องใช้เวลาเรียนรู้เกี่ยวกับตลาดมากขึ้น ซึ่งอาจช่วยให้รู้สึกมั่นใจมากขึ้นและได้รับอิทธิพลจากอารมณ์น้อยลง

สิ่งถัดไปที่คุณควรเรียนรู้? หมุนวงล้อเพื่อค้นหา!

rainbow circle

นักเทรดกับนักลงทุน: ความแตกต่างและความคล้ายคลึงกัน

แบ่งปัน

บทความก่อนหน้า

การเทรดช่วงเทศกาลวันหยุด – สิ่งที่ต้องรู้
Trading on Black Friday and holidays
การเทรดช่วงเทศกาลวันหยุด – สิ่งที่ต้องรู้

บทความถัดไป

ตัวชี้วัด Historical Volatility – วิธีการตั้งค่าและใช้งาน
ตัวชี้วัด Historical Volatility – วิธีการตั้งค่าและใช้งาน

โพสต์ล่าสุด

การเทรดช่วงเทศกาลวันหยุด – สิ่งที่ต้องรู้

21.11.2024

Trading on Black Friday and holidays

พลังสายรุ้งของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นทวีคูณ

18.11.2024

ข้อมูลเกี่ยวกับการแข่งเทรดที่ IQ Option – กฎ กลยุทธ์ และเคล็ดลับ

14.11.2024

IQ Option tournaments

11 บทเรียนชีวิตที่ได้เรียนรู้จาก 11 ปีของการเทรด

11.11.2024

11 years of IQ Option

การเลือกตั้งสหรัฐ 2024 – ตลาดจะตอบสนองอย่างไร

31.10.2024

US election impact on markets

หยุดการสูญเสียติดต่อกัน

29.10.2024