การใช้แนวรับและแนวต้านในการเทรด

ระดับแนวรับและแนวต้านเป็นระดับสำคัญในกราฟสินทรัพย์ที่บ่งชี้โอกาสการกลับตัวของราคาการเทรดจุดทะลุและการกลับตัวของแนวโน้มคือวิธีที่ได้รับความนิยมในการเลือกจุดเข้าตลาด

เส้นแนวรับและแนวต้านเป็นตัวชี้วัดการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ชัดเจนที่สุดอย่างน้อยคุณควรใช้สิ่งเหล่านี้เพราะนักเทรดทั่วโลกต่างก็พึ่งพาเส้นแนวรับและแนวต้าน

แนบรับและแนวต้านบนกราฟ

คุณสามารถวาดเส้นเหล่านี้บนกราฟชนิดใดก็ได้ไม่ว่าจะเป็นกราฟแท่งเทียนกราฟพื้นที่หรือกราฟเส้นแต่ก็เหมือนกับเครื่องมือทางเทคนิคประเภทอื่นๆซึ่งส่วนใหญ่จะมีประโยชน์มากบนกราฟแท่งเทียนและกราฟแท่งระดับแนวรับและแนวต้านสามารถช่วยให้นักเทรดตัดสินใจได้ว่าจะซื้อสินทรัพย์ด้วยราคาที่ลดลงเมื่อไรและจะขายตอนไหน

ระดับแนวรับและแนวต้านจะสะท้อนจุดที่เป็นราคาสูงสุดและจุดต่ำสุดของกราฟราคาจุดกลับตัวของราคาเหล่านี้เป็นรากฐานของการเทรดซึ่งแสดงถึงกฎของอุปสงค์และอุปทานนักเทรดที่อาศัยแนวรับและแนวต้านจะใช้กลยุทธ์สำหรับทั้งการรีบาวด์และจุดทะลุผ่าน

รีบาวด์

เมื่อราคาเข้าใกล้ระดับที่รีบาวด์กลับมาจากในอดีตมันสามารถรีบาวด์ได้อีกครั้งจึงเกิดเป็นช่องทางราคา

รูปข้างบนแสดงความเคลื่อนไหวของราคาด้านข้างที่มีขอบอย่างชัดเจนขีดจำกัดบนคือแนวต้านและขีดจำกัดล่างคือแนวรับนักเทรดบางส่วนพิจารณารีบาวด์เป็นโอกาสเข้าตลาดจากนั้นพวกเขาจะปิดดีลเมื่อราคาถึงขอบบนจุดเข้าตลาดระยะสั้นสามารถปรากฏเมื่อราคารีบาวด์จากระดับแนวต้าน

นอกจากระดับแนวนอนแล้วยังมีระดับถดถอยด้วยสิ่งเหล่านี้เรียกว่าเส้นแนวโน้ม

เส้นแนวโน้มบ่งบอกทิศทางความเคลื่อนไหวของราคาสร้างขึ้นโดยใช้ค่าสูงสุดของแนวโน้มขาลงและแนวโน้มขาขึ้นที่ต่ำที่สุดโปรดทราบว่าคุณสามารถเพิ่มระดับแนวนอนในกราฟราคาซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ทั่วไปได้

นอกจากนี้ยังเป็นไปได้ที่ระดับแนวต้านเก่าจะเปลี่ยนเป็นแนวรับใหม่(เมื่อราคาสินทรัพย์สูงขึ้น) และในทางกลับกันสำหรับการเคลื่อนไหวของราคาที่ลดลงการปรับตัวของทิศทางแนวโน้มสามารถถือเป็นหนึ่งในสัญญาณได้หากการถดถอยแข็งแกร่งกว่าและราคาทะลุผ่านแนวรับนักเทรดพิจารณาที่จะใช้กลยุทธ์การทะลุผ่าน

การทะลุผ่าน(Breakout)

การทะลุผ่านแนวรับและแนวต้านบางครั้งนำเสนอโอกาสสร้างแนวโน้มที่แข็งแกร่งโปรดทราบว่าเทคนิคนี้ยากต่อการใช้งานมากกว่าเทคนิคก่อนหน้าเนื่องจากนักเทรดจำเป็นต้องดูตลาดเกือบตลอดเวลาเพื่อไม่ให้พลาดจุดเข้านักเทรดหลายคนที่ใช้ประโยชน์จากการทะลุจะไม่เข้าทันทีแต่จะรอการปรับหลังการทะลุ และค่อยเข้าตลาด

การทะลุหลอก(Fakeout)

การทะลุผ่านสามารถเป็นจริงหรือเท็จก็ได้การทะลุหลอกสามารถทำให้นักเทรดสับสนหลังเชื่อว่าราคาที่ทะลุผ่านระดับสินทรัพย์ควรเป็นแนวโน้มแต่ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเสมอไปราคาสามารถลงต่ำกว่าระดับและมุ่งหน้าสู่ทิศทางตรงกันข้าม

ในกรณีแบบนี้สามารถเป็นประโยชน์ที่จะรอให้แท่งเทียนถัดไปใกล้ปิดซึ่งอาจเป็นหรือไม่อาจเป็นการยืนยันของทิศทางแนวโน้มใหม่หากราคากลับมาหลังจากการทะลุและแท่งเทียนเข้าใกล้ทิศทางตรงกันข้ามดังนั้นนี่อาจเป็นการทะลุหลอก

ในการทะลุของแนวโน้มจริงนักเทรดบางส่วนชอบเข้าตลาดพร้อมการปรับตัวขึ้นหรือลดตัวลงหลังจากการทะลุ

สรุป

การเทรดตามแนวรับและแนวต้านใช้ประโยชน์จากจิตวิทยาของฝูงชนผู้เข้าร่วมตลาดเน้นดูพฤติกรรมของราคาภายใต้สถานการณ์ที่คล้ายกันในอดีตโดยวัดราคาสูงสุดและต่ำสุดในช่วงเวลาปัจจุบัน(ตัวอย่างเช่นช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา) และประเมินเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้หรือที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้หากข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ไม่มีการรบกวนใดๆและไม่มีเหตุการณ์ใดที่จะส่งผลกระทบต่อสินทรัพย์มากกว่าในสัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่ามีเหตุผลที่ราคาจะยังคงอยู่ในแนวเดิมต่อไป

หากต้องการเทรดด้วยวิธีนี้คุณต้องเรียนรู้วิธีการสร้างแนวรับและแนวต้านและติดตามข่าวเบื้องหลังเพื่อหลีกเลี่ยงการทะลุที่ไม่คาดคิดจำไว้ว่าไม่มีตราสารการวิเคราะห์ทางเทคนิคใดที่แม่นยำ100% เนื่องจากทั้งหมดอาจให้สัญญาณหลอก