Back
Updated: พฤศจิกายน 17, 2025

วิธีเทรดไบนารีออปชัน – คู่มือฉบับสมบูรณ์

ไบนารีออปชันคืออะไร

ให้คิดว่าไบนารีออปชันเป็นเหมือนการเดิมพันเงินที่มีผลลัพธ์เพียงสองแบบ ซึ่งเป็นการคาดการณ์ว่าราคาของสินทรัพย์จะสูงขึ้นหรือต่ำกว่าราคาที่กำหนดเมื่อออปชันหมดเวลา การเทรดไบนารีออปชันไม่ได้เป็นเจ้าของสินทรัพย์จริงๆ เหมือนกับการเทรดปกติ แต่เป็นการเดิมพันกับการเคลื่อนไหวของราคาเท่านั้น

ฟีเจอร์สำคัญที่ทำให้ไบนารีออปชันแตกต่าง

การทำงานของไบนารีออปชันแตกต่างจากเครื่องมือทางการเงินอื่นๆ

●  ผลตอบแทนคงที่ – ทราบผลตอบแทนก่อนที่จะทำการเทรดจริง

●  ผลลัพธ์แบบชนะจ่ายเงินแพ้ไม่จ่ายเงิน – หากชนะจะได้รับเงิน หากแพ้จะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมด

●  ระยะเวลาสั้น – ออปชันจะหมดอายุในไม่กี่นาทีหรือไม่กี่ชั่วโมง

●  ตัดสินใจง่าย – เพียงแค่เลือก “สูงกว่า” หรือ “ต่ำกว่า”

แต่อย่าสับสนระหว่างความเรียบง่ายกับความง่าย เพราะตลาดการเงินมีความซับซ้อน แม้แต่เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์สูงก็ยังประสบปัญหากับการทำกำไรอย่างต่อเนื่อง

หลักการทำงานของไบนารีออปชัน

การเดิมพันไบนารีออปชันเป็นการตัดสินใจเกี่ยวกับทิศทางของราคาในอนาคต มาดูกันว่าขั้นตอนเทรดเป็นอย่างไร

รายละเอียดกระบวนการเทรด

ขั้นตอน 1 – เลือกสินทรัพย์

เริ่มจากเลือกสินทรัพย์ที่ต้องการเทรด เช่น หุ้น สกุลเงิน สินค้าโภคภัณฑ์ หรือดัชนี สินทรัพย์ที่นิยมเทรดไบนารีออปชัน ได้แก่ EUR/USD ทองคำ หุ้น Apple หรือดัชนี S&P 500 แต่ละสินทรัพย์มีพฤติกรรมเฉพาะตัว ดังนั้นการตระหนักถึงลักษณะของสินทรัพย์จะช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จ

ขั้นตอน 2 – เลือกเวลาหมดอายุ

เวลาหมดอายุเป็นตัวกำหนดว่าการคาดการณ์จะถูกพิสูจน์ผลลัพธ์เมื่อไร เวลาหมดอายุจะอยู่ระหว่าง 60 วินาทีไปจนถึงไม่กี่ชั่วโมง เวลาหมดอายุที่สั้นกว่าจะให้ผลลัพธ์รวดเร็ว แต่มีความผันผวนมากกว่าเนื่องจากสัญญาณรบกวนของตลาด

ขั้นตอน 3 – เลือกทิศทาง

●  ออปชัน Call – หากคาดว่าราคาจะสูงขึ้นเมื่อถึงเวลาหมดอายุ

●  ออปชัน Put – หากคาดว่าราคาจะลดลงเมื่อถึงเวลาหมดอายุ

ขั้นตอน 4 – กำหนดจำนวนเงินลงทุน

โบรกเกอร์ส่วนใหญ่จะกำหนดเงินลงทุนขั้นต่ำที่ $10 – $25 จำไว้ว่าการเทรดออปชันอาจสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดได้ในเทรดเดียว

กระบวนการจ่ายผลตอบแทน

หากคาดการณ์ถูกต้องจะได้รับเงินลงทุนเริ่มต้นพร้อมกับกำไรที่ตกลงไว้ หากคาดการณ์ไม่ถูกจะสูญเสียเงินลงทุนทั้งหมดในเทรดนั้น สมมติว่าเดิมพัน $100 กับคู่เงิน EUR/USD ที่มีผลตอบแทน 80% หากคาดการณ์ถูกจะได้รับเงิน $180 (เงินเริ่มต้น $100 + กำไร $80) หากคาดการณ์ผิดจะสูญเสียเงินทั้งหมด $100

ประเภทไบนารีออปชันมีอะไรบ้าง

การทำความเข้าใจประเภทออปชันจะช่วยให้สามารถเลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะกับสภาวะตลาดที่แตกต่างกันได้ง่ายขึ้น

ออปชัน High/Low (ประเภทที่พบได้ทั่วไป)

การเดิมพันทำได้ง่ายมาก เพียงคาดการณ์ว่าราคาจะสูงขึ้นหรือลดลงเมื่อถึงเวลาหมดอายุเทียบกับราคาปัจจุบัน ออปชันประเภทนี้ใช้ได้ผลดีที่สุดเมื่อทำการวิเคราะห์อย่างมั่นใจแล้วว่าทิศทางของราคาจะเป็นอย่างไรต่อไป

ออปชัน Touch/No Touch

ออปชันนี้เป็นการเดิมพันว่าราคาจะแตะถึงระดับที่กำหนดก่อนถึงเวลาหมดอายุหรือไม่ ใช้ได้ผลกับช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง เมื่อมองเห็นการเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรง แต่ไม่แน่ใจว่าสุดท้ายแล้วทิศทางราคาจะไปทางไหน

ออปชันแบบช่วงราคา (Range Option)

ออปชันประเภทนี้เรียกอีกชื่อว่าออปชันขอบเขต (Boundary Option) เป็นการเดิมพันว่าราคาจะอยู่ในกรอบหรือทะลุออกนอกกรอบที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ออปชันนี้เหมาะกับตลาดที่ราคาแกว่งอยู่ในกรอบ โดยมีระดับแนวรับและแนวต้านที่ชัดเจน

ออปชัน 1 นาที

ออปชันที่มีระยะเวลาสั้นมาก หมดอายุในเวลาเพียง 60 วินาที แม้ชื่อจะฟังดูน่าตื่นเต้น แต่การเคลื่อนไหวของออปชันถูกควบคุมโดยสัญญาณรบกวนของตลาด แทนที่จะเป็นการวิเคราะห์ที่ทำกำไรได้ เทรดเดอร์มืออาชีพส่วนใหญ่จะหลีกเลี่ยงออปชันประเภทนี้

เคล็ดลับวิธีเลือกโบรกเกอร์ไบนารีออปชัน

การเลือกโบรกเกอร์มีผลอย่างมากต่อความสำเร็จในการเทรด แต่น่าเสียดายที่ธุรกิจนี้มีผู้ให้บริการที่ไม่น่าเชื่อถืออยู่ไม่น้อย ดังนั้นจึงควรหาข้อมูลให้รอบด้านก่อนตัดสินใจ

หน่วยงานกำกับดูแลมีความสำคัญมากกว่าคำโฆษณา

ก่อนอื่นให้ตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ปฏิบัติตามกฎระเบียบของหน่วยงานควบคุมหรือไม่ โบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงจะมีใบอนุญาตจากหน่วยงานกำกับดูแล เช่น CySEC (Cyprus Securities and Exchange Commission), FCA (Financial Conduct Authority) และ CFTC (Commodity Futures Trading Commission) เว็บไซต์หลายแห่งเปิดให้บริการโดยไม่มีหน่วยงานควบคุมที่เหมาะสม การเลือกโบรกเกอร์จึงควรตรวจสอบรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่ระบุไว้ และยืนยันให้แน่ใจว่าโบรกเกอร์อยู่ภายใต้การควบคุมของหน่วยงานกำกับดูแล

ฟีเจอร์ของแพลตฟอร์มที่ควรพิจารณา

แพลตฟอร์มที่เลือกใช้ต้องมีเครื่องมือสำคัญดังต่อไปนี้

●  กราฟหลายสกุลเงินเรียลไทม์

●  ฟีดปฏิทินเศรษฐกิจ

●  เทรดได้บนมือถือ

●  มีบัญชีทดลองให้ใช้

เปรียบเทียบการจ่ายผลตอบแทน

อย่าลืมเปรียบเทียบอัตราการจ่ายผลตอบแทนของโบรกเกอร์แต่ละที่ อัตราการจ่ายผลตอบแทนยิ่งสูง ยิ่งมีโอกาสกำไรได้มาก แต่ต้องระวังอัตราผลตอบแทนของแพลตฟอร์มที่ฟังดูเกินจริง เช่น 95% ซึ่งอาจเป็นการโฆษณาที่มีเงื่อนไขแฝงอยู่

ความหลากหลายของสินทรัพย์

หาโบรกเกอร์ที่มีตัวเลือกสินทรัพย์ให้เทรดหลากหลาย

●  คู่สกุลเงินหลัก (EUR/USD, GBP/USD)

●  หุ้นที่มีชื่อเสียง (Apple, Google, Microsoft)

●  สินค้าโภคภัณฑ์ (ทองคำ น้ำมัน เงิน)

●  ดัชนีระดับโลก (S&P 500, NASDAQ)

กลยุทธ์เทรดไบนารีออปชันที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว

การเดาสุ่มไม่ทำให้การเทรดไบนารีออปชันประสบความสำเร็จ แต่ต้องมีกลยุทธ์ที่เป็นระบบที่อ้างอิงจากการวิเคราะห์ตลาด ด้านล่างเป็นกลยุทธ์บางส่วนที่ได้รับการพิสูจน์และสามารถนำไปใช้งาน

กลยุทธ์เทรดตามแนวโน้ม (Trend Following)

กลยุทธ์นี้ใช้ประโยชน์จากแนวโน้มราคาที่เกิดขึ้นต่อเนื่องยาวนานในทิศทางเดียว แนวโน้มมักดำเนินต่อไปหลังเริ่มต้นขึ้น ทำให้กลยุทธ์นี้ใช้ได้ผล

ขั้นตอนการใช้กลยุทธ์

●  หาแนวโน้มที่รุนแรงด้วยการใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่

●  ซื้อออปชัน Call เมื่อเป็นแนวโน้มขาขึ้น ซื้อออปชัน Put เมื่อเป็นแนวโน้มขาลง

●  ใช้เวลาหมดอายุที่นานขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงสัญญาณรบกวนของตลาด

●  ยืนยันแนวโน้มด้วยตัวชี้วัดปริมาณซื้อขาย

ตลาดที่ดีที่สุด – ดัชนีและคู่สกุลเงินมักวิ่งเป็นเทรนด์อย่างชัดเจนและแข็งแกร่ง

กลยุทธ์แนวรับและแนวต้าน

ระดับที่สินทรัพย์เคยกลับทิศทางมาก่อนเป็นโอกาสเทรดที่ยอดเยี่ยม จุดดังกล่าวทำหน้าที่เป็นระดับทางจิตวิทยาสำหรับผู้เข้าร่วมตลาด

ขั้นตอนการตั้งค่า

●  ทำเครื่องหมายระดับแนวรับและแนวต้านที่สำคัญบนกราฟ

●  สังเกตพฤติกรรมของราคาที่ระดับเหล่านี้

●  ซื้อออปชัน Put เมื่อราคาถึงระดับแนวต้าน

●  ซื้อออปชัน Call เมื่อราคาถึงระดับแนวรับ

●  ใช้เวลาหมดอายุปานกลาง (30 – 60 นาที)

จุดสำคัญ – รอสัญญาณปฏิเสธที่แน่นอนก่อนเข้าเทรด ราคาทะลุกรอบหลอกมักทำให้โอกาสที่มีแนวโน้มทำกำไรกลายเป็นขาดทุน

กลยุทธ์เทรดตามข่าว

รายงานข่าวเศรษฐกิจและการประกาศของบริษัทเป็นสิ่งที่สร้างความผันผวนให้ตลาดแบบทันทีทันใด เทรดเดอร์ที่ฉลาดจะทำให้ตัวเองอยู่ในจุดที่สามารถทำกำไรจากเหตุการณ์ที่ประเมินผลได้เหล่านี้

เหตุการณ์สำคัญที่ต้องจับตามอง

●  การประกาศของธนาคารกลางสหรัฐฯ

●  รายงานการจ้างงาน

●  ประกาศผลประกอบการของบริษัท

●  การเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

เคล็ดลับการเทรด

●  ดูปฏิทินเศรษฐกิจ

●  เข้าเทรดทันทีเมื่อมีการประกาศข่าว

●  ใช้วันหมดอายุสั้นๆ เพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวช่วงแรกๆ

●  อย่าเทรดช่วงที่การเมืองมีความผันผวนสูง

ดูข้อมูลที่มีประโยชน์เพิ่มเติมได้ที่หัวข้อกลยุทธ์เทรดยอดนิยม

วิธีจัดการความเสี่ยงในการเทรดไบนารีออปชัน

การเทรดไบนารีออปชันให้ผลตอบแทนแบบชนะจ่ายเงินแพ้ไม่จ่ายเงิน (All or Nothing) การวางแผนการจัดการความเสี่ยงจึงเป็นสิ่งจำเป็น หากไม่ได้บริหารจัดการเงินอย่างเหมาะสม ต่อให้มีระบบที่ดีแค่ไหนก็ไม่สามารถปกป้องเงินในบัญชีได้

กฎ 2%

อย่าเสี่ยงเกิน 2% ของเงินทั้งหมดในบัญชีต่อการเทรดแต่ละครั้ง กฎดังกล่าวจะช่วยรับมือกับการขาดทุนติดต่อกันเพื่อไม่ให้เงินหมดบัญชี

ตัวอย่างเช่น บัญชีมีเงินอยู่ $1,000 แต่ละเทรดจะจำกัดสูงสุดที่ $20

เทคนิคการควบคุมอารมณ์

ไบนารีออปชันเป็นการเทรดที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ เนื่องจากต้องตัดสินใจรวดเร็วและมีความเสี่ยงสูง เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์จะใช้เทคนิคต่างๆ เพื่อจัดการแรงกดดันทางจิตวิทยา

หลุมพรางทางอารมณ์ที่พบได้ทั่วไป 

●  เทรดเอาคืนจากการขาดทุน

●  มั่นใจมากเกินไปหลังจากทำกำไรได้

●  กลัวตกขบวน (FOMO)

●  เพิ่มเงินเดิมพันเพื่อล้างการขาดทุน

แนวทางแก้ไขที่ใช้ได้ผล 

●  จำกัดการขาดทุนรายวันและทำตามแผนอย่างเคร่งครัด

●  หยุดพักหลังจากเทรดด้วยอารมณ์

●  จดบันทึกการเทรดทุกวัน

●  ทำกิจกรรมผ่อนคลายความเครียด

เทคนิคการกระจายความเสี่ยง

●  กระจายเวลา – กระจายการเทรดเป็นช่วงเวลาหมดอายุที่แตกต่างกัน เพื่อลดความเสี่ยงด้านเวลา

●  กระจายสินทรัพย์ – เทรดสินทรัพย์ที่ไม่เกี่ยวข้องกันหลากหลายประเภท เพื่อลดผลกระทบจากบางตลาด

●  กระจายกลยุทธ์ – ใช้กลยุทธ์หลายอย่างร่วมกัน เพื่อสร้างความสมดุลให้กับผลลัพธ์ที่ไม่แน่นอน

การวิเคราะห์ทางเทคนิคกับไบนารีออปชัน

การวิเคราะห์กราฟมีความสำคัญมากในไบนารีออปชัน เพราะต้องอาศัยความแม่นยำเรื่องเวลา ซึ่งต้องคาดการณ์ทิศทางและจังหวะเข้าเทรดให้ถูกต้อง

ตัวชี้วัดสำคัญ

ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (20 และ 50 ช่วงเวลา)

สิ่งเหล่านี้จะช่วยหาทิศทางของแนวโน้ม ซื้อออปชัน Call เมื่อราคาอยู่เหนือค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่กำลังเพิ่มขึ้น ขายออปชัน Put เมื่อราคาอยู่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่กำลังลดลง

RSI (Relative Strength Index)

ตัวชี้วัดออสซิลเลเตอร์นี้บ่งบอกว่าตลาดอยู่ในสภาวะซื้อมากเกินไป (สูงกว่า 70) หรือขายมากเกินไป (ต่ำกว่า 30) สังเกตไดเวอร์เจนซ์ระหว่างราคาและ RSI เพื่อหาจุดกลับตัว

Bollinger Band

เส้นความผันผวนที่ช่วยแสดงให้เห็นจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของราคา เมื่อราคาแตะเส้นบนสุด เทรดเดอร์จะใช้ออปชัน Put เมื่อราคาแตะเส้นล่างสุด เทรดเดอร์จะใช้ออปชัน Call

รูปแบบกราฟที่ใช้ได้ผล

Pin Bar (พินบาร์หรือแท่งเทียนปฏิเสธ)

แท่งเทียนที่มีไส้เทียนยาวสะท้อนว่าราคาถูกปฏิเสธที่ระดับสำคัญ เทรดตรงข้ามกับทิศทางของแนวโน้มเพื่อหาจุดทำกำไรดีๆ ที่มีโอกาสสำเร็จสูง

สองยอดขาขึ้นและสองยอดขาลง (Double Top/Double Bottom)

รูปแบบจุดกลับตัวที่ใช้กันมานานเหล่านี้แสดงให้เห็นการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น สองยอดขาขึ้น (Double Top) ควรซื้อออปชัน Put หากเป็นสองยอดขาลง (Double Bottom) ควรซื้อออปชัน Call

รูปแบบราคาทะลุกรอบ (Breakout)

เมื่อราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญพร้อมมีปริมาณซื้อขายยืนยัน โมเมนตัมจะดำเนินต่อไปในทิศทางของราคาทะลุกรอบ

ข้อผิดพลาดทั่วไปที่ทำให้เสียเงินหมดบัญชี

การเรียนรู้จากข้อผิดพลาดของคนอื่นมีประโยชน์มากมาย ช่วยปกป้องไม่ให้สูญเสียเงิน และไม่ต้องเครียด เพียงแค่หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดร้ายแรงที่เทรดเดอร์มือใหม่มักทำ

ติดการเทรดมากเกินไป (Overtrading Syndrome)

ลักษณะของไบนารีออปชันเป็นสิ่งดึงดูดให้เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ทำการเทรดมากเกินไป จำไว้ว่าการเทรดที่มีคุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ

สัญญาณเตือน 

●  เทรดโดยไม่มีแบบแผนที่ชัดเจน 

●  เทรดเพราะเบื่อ 

●  เปิดเทรดเพิ่มขึ้นหลังจากขาดทุน 

●  ไม่ทำตามกฎที่ตั้งไว้

แนวทางแก้ไข 

●  กำหนดขีดจำกัดจำนวนเทรดต่อวัน 

●  เทรดเฉพาะจังหวะที่มีโอกาสชนะสูง 

●  ทำงานอดิเรกอื่นๆ นอกเหนือจากการเทรด 

●  ทำตามแผนการเทรดอย่างเคร่งครัด

ละเลยการบริหารจัดการเงิน

เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มัวแต่สนใจกับเปอร์เซ็นต์ชนะ แต่ไม่ได้พิจารณาขนาดของสถานะว่าควรลงทุนมากน้อยแค่ไหน ความคิดผิดๆ แบบนี้เป็นสาเหตุที่ทำให้สูญเสียเงินหมดบัญชี

หากมีการบริหารจัดการเงินที่ดี เทรดเดอร์จะสามารถทำกำไรได้แม้มีอัตราชนะเพียง 45% แต่ถึงจะมีอัตราชนะ 65% ก็อาจขาดทุนได้หากไม่มีการควบคุมความเสี่ยงอย่างเหมาะสม

หลับหูหลับตาเชื่อกูรู

เว็บไซต์เต็มไปด้วยบุคคลที่เรียกตัวเองว่ากูรู ซึ่งขายสัญญาณเทรดและระบบต่างๆ แต่ความสำเร็จในการเทรดที่แท้จริงมาจากการฝึกฝนทักษะและหาความรู้ด้วยตัวของเทรดเดอร์เอง

สิ่งที่ต้องหลีกเลี่ยง 

●  การันตีว่าได้กำไรแน่นอน 

●  บริการขายสัญญาณราคาแพง 

●  ระบบเทรด “ลับ” 

●  ไม่ยอมแสดงหลักฐานผลเทรดจริง

จิตวิทยาการเทรดไบนารีออปชัน

หากเปรียบเทียบกับกิจกรรมทางการเงินส่วนใหญ่ การเทรดไบนารีออปชันถือเป็นบททดสอบความแข็งแกร่งด้านจิตใจระดับสูงสุด ปัจจัยทางจิตวิทยาและวิธีจัดการมักเป็นตัวกำหนดความสำเร็จระยะยาว

รับมือกับการขาดทุนที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

การขาดทุนจากการเทรดเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ไม่ว่าจะเก่งแค่ไหนก็ตาม วิธีรับมือกับการขาดทุนเป็นสิ่งที่แยกผู้ชนะออกจากผู้แพ้

●  ยอมรับการขาดทุนและเรียนรู้เป็นบทเรียน

●  มองข้อผิดพลาดโดยไม่โทษตัวเอง

●  อย่าจมอยู่กับเทรดเดียว ให้มองภาพรวมของผลการเทรดทั้งหมด

●  อย่าพยายาม “เทรดเอาคืนตลาด”

สร้างความมั่นใจอย่างแท้จริง

●  เริ่มต้นด้วยบัญชีทดลองเพื่อพัฒนาทักษะ

●  เริ่มต้นด้วยเงินจริงจำนวนน้อยๆ

●  เพิ่มขนาดการลงทุนทีละน้อยหลังจากได้กำไรซ้ำๆ หลายครั้งเท่านั้น

●  จดบันทึกสิ่งที่ใช้ได้ผล

เทรดอย่างมีวินัย

●  เขียนแผนการเทรดให้ชัดเจน

●  สร้างกฎเข้าเทรดและขายออกอย่างละเอียด

●  ใช้การแจ้งเตือนแทนการดูกราฟตลอดเวลา

●  ทบทวนผลการเทรดเป็นประจำ

วิธีสร้างแผนการเทรดไบนารีออปชัน

กลยุทธ์ที่มีวินัยเป็นสิ่งที่แยกผู้ชนะออกจากนักพนัน อ่านขั้นตอนเหล่านี้เพื่อสร้างแผนการเทรดไบนารีออปชันของตนเอง

ตั้งความคาดหวังบนพื้นฐานของความจริง

เริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายประจำเดือน

●  เทรดเดอร์มือใหม่ : ผลตอบแทนต่อเดือน 5% – 10% 

●  เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์ : ผลตอบแทนต่อเดือน 10% – 15%

จำไว้ว่า ความสม่ำเสมอมีค่ากว่าผลตอบแทนที่หวือหวา

กำหนดขีดจำกัดความเสี่ยงที่ยอมรับได้

●  จำกัดปริมาณการขาดทุนรายวัน : 10% ของบัญชี 

●  จำกัดปริมาณขาดทุนรายสัปดาห์ : 20% ของบัญชี 

หยุดพักหลังจากขาดทุนติดต่อกัน 5 ครั้ง

มีกรอบกลยุทธ์การเทรด

วิเคราะห์ตลาดประจำวัน

●  ตรวจสอบเหตุการณ์บนปฏิทินเศรษฐกิจ

●  ดูทิศทางแนวโน้มจากกราฟรายวัน

●  กำหนดพื้นที่แนวรับ/แนวต้านที่สำคัญ

●  ระบุโอกาสที่มีความเป็นไปได้สูง

ขั้นตอนการเทรด

●  รอจนกว่าสัญญาณจะได้รับการยืนยัน

●  ประเมินอัตราส่วนความเสี่ยง/ผลตอบแทน

●  ยืนยันให้แน่ใจว่าเปิดสถานะตามขนาดที่กำหนด

●  วางเทรดพร้อมกำหนดเวลาหมดอายุ

●  บันทึกรายละเอียดการเทรดแบบเรียลไทม์

กลยุทธ์ขั้นสูงสำหรับเทรดเดอร์ขั้นสูง

เมื่อเรียนรู้พื้นฐานแล้ว กลยุทธ์ขั้นสูงเหล่านี้สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเทรดได้

การวิเคราะห์ความผันผวน

การเข้าใจความผันผวนของตลาดจะช่วยคาดการณ์พฤติกรรมของออปชันและแสดงให้เห็นโอกาส

กลยุทธ์เทรดช่วงที่ตลาดผันผวนสูง

●  ซื้อออปชัน Touch/No Touch

●  ใช้ช่วงเวลาหมดอายุสั้นๆ

●  เน้นสินทรัพย์ที่เคลื่อนไหวตามข่าว

กลยุทธ์เทรดช่วงที่ตลาดผันผวนต่ำ

●  ซื้อออปชันแบบช่วงราคา (Range Option)

●  ใช้ช่วงเวลาหมดอายุยาวๆ

●  เน้นสินทรัพย์นิ่งๆ ขึ้นลงไม่แรงและมีแนวโน้มชัด

การเทรดแบบอิงความสัมพันธ์

สินทรัพย์บางอย่างมีรูปแบบเคลื่อนที่เป็นแพทเทิร์นและสัมพันธ์กับสินทรัพย์ ทำให้มีโอกาสพิเศษในการทำกำไร

ความสัมพันธ์ที่พบได้ทั่วไป

●  EUR/USD และ GBP/USD (เชิงบวก)

●  USD/JPY และทองคำ (เชิงลบ)

●  ราคาน้ำมันและหุ้นพลังงาน (เชิงบวก)

แนวทางเทรด

●  ดูค่าสัมประสิทธิ์ความสัมพันธ์ (Correlation Coefficient)

●  สังเกตช่วงที่ราคาหยุดพักตัวสั้นๆ

●  สวอปชี้ว่าจะเกิดคอนเวอร์เจนซ์

อ่านข้อมูลที่มีประโยชน์เพิ่มเติมได้ที่หัวข้อกลยุทธ์เทรดออปชันยอดนิยม

สรุปส่งท้าย

การเทรดไบนารีออปชันเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการหาโอกาสทำกำไรจากตลาดการเงิน แต่ไม่ได้แปลว่าจะสามารถทำเงินได้ง่ายๆ การเทรดไบนารีออปชันต้องมีวินัย มีความรู้ที่ถูกต้อง และทุ่มเท หากรู้กลไกการทำงานของตลาดและเข้าใจจิตวิทยาการเทรดที่ช่วยให้ควบคุมอารมณ์อย่างเหมาะสม เทรดเดอร์จะสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากการเทรดไบนารีออปชันที่มีลักษณะเฉพาะเพื่อสร้างผลลัพธ์ได้ในเวลารวดเร็ว

คำถามที่พบบ่อย

คำถามเป็นไปได้หรือไม่ที่จะทำเงินจากการเทรดไบนารีออปชัน

เป็นไปได้ แต่ทำได้ยากมาก โครงสร้างความเสี่ยง/ผลตอบแทนคงที่และโบรกเกอร์มีข้อได้เปรียบทางคณิตศาสตร์ ทำให้การทำกำไรอย่างต่อเนื่องเป็นเรื่องยาก เทรดเดอร์ส่วนมากเทรดแล้วขาดทุนโดยเฉพาะมือใหม่

เริ่มต้นเทรดด้วยเงินที่ยอมรับได้หากขาดทุน เงินเริ่มต้นขั้นต่ำส่วนใหญ่จะเป็น 100 – 250 ดอลลาร์สหรัฐ แต่หากเริ่มต้นด้วยเงิน 500 – 1,000 ดอลลาร์สหรัฐ จะทำให้ควบคุมความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นระหว่างที่เทรดไปพร้อมกับการเรียนรู้

คำถามกลยุทธ์ใดดีที่สุดสำหรับมือใหม่

เริ่มต้นด้วยกลยุทธ์เทรดตามแนวโน้มพร้อมเลือกใช้เวลาหมดอายุที่นานขึ้น (1 – 4 ชั่วโมง) วิธีนี้จะช่วยลดสัญญาณรบกวนของตลาด และทำให้มีเวลาวิเคราะห์เพื่อรับมือกับตลาด ในช่วงที่เพิ่งเริ่มต้นเทรดให้หลีกเลี่ยงออปชัน 60 วินาที

คำถามไบนารีออปชันเป็นการพนันหรือไม่

ความแตกต่างระหว่างการเทรดและการพนันขึ้นอยู่กับแนวทางที่ใช้ การเก็งกำไรโดยไม่คิดวิเคราะห์ก็ไม่ต่างกับการพนัน หากมีการศึกษาอย่างเป็นระบบและจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพจะถือว่าเป็นการเทรด แต่ถึงอย่างไรการเทรดไบนารีออปชันก็เป็นสิ่งที่มีความเสี่ยงสูงอยู่ดี

Updated พ.ย. 17, 2025

Marta Henriques