วิธีเทรดดิจิตอลออปชัน เวอร์ชันขั้นสูงของไบนารีออปชัน

มิถุนายน 28, 2024

4 นาที

ดิจิตอลออปชันเป็นการเทรดที่มีความซับซ้อนมากขึ้นและเป็นที่รู้จักน้อยกว่าไบนารีออปชัน กลไกการเทรดดิจิตอลออปชันตรงไปตรงมา เพียงแต่มีความซับซ้อนเพิ่มมากขึ้นเพื่อให้การเทรดได้รับผลตอบแทนที่สูงกว่า

บทความนี้จะพาไปเจาะลึกข้อมูลเกี่ยวกับดิจิตอลออปชันและดูประเภทต่างๆ ที่มีให้เทรดที่ IQ Option รวมถึงแนวทางการเทรด เคล็ดลับสำหรับมือใหม่หัดเทรดและกลยุทธ์

ดิจิตอลออปชันคืออะไร

ดิจิตอลออปชันเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเทรดที่รวดเร็ว มาพร้อมความซับซ้อนที่มากขึ้นและความสามารถในการทำกำไรเพิ่มขึ้น ดิจิตอลออปชันต่างจากผลลัพธ์แบบได้เงินหรือเสียเงินของไบนารีออปชัน ซึ่งดิจิตอลออปชันจะนำเสนอขอบเขตของผลลัพธ์ที่ขึ้นอยู่กับการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์อ้างอิง การจ่ายเงินไม่ได้กำหนดคงที่ แต่จะอ้างอิงว่าเมื่อถึงเวลาหมดอายุแล้วราคาสินทรัพย์เคลื่อนที่ไปไกลแค่ไหนจากราคาใช้สิทธิ์ที่เลือก ยิ่งเคลื่อนที่มาก ยิ่งได้ผลตอบแทนมาก

ไบนารีออปชันและดิจิตอลออปชัน

ลองนึกภาพว่าคุณกับเพื่อนกำลังดูการแข่งขันที่มีเดิมพันสูง เพื่อนเดิมพันผู้ชนะ ส่วนคุณกำลังเดิมพันว่าผู้แข่งขันแต่ละคนจะเร็วหรือช้ากว่ามากน้อยแค่ไหนเมื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐาน นี่คือหลักการระหว่างไบนารีออปชันเทียบกับดิจิตอลออปชัน

ไบนารีออปชันและดิจิตอลออปชันต่างก็จัดอยู่ในประเภทของอนุพันธ์ ซึ่งเป็นตราสารทางการเงินที่มีมูลค่าเชื่อมโยงกับสินทรัพย์อ้างอิง หมายความว่าการเทรดออปชันไม่ได้เป็นการครอบครองสินทรัพย์นั้นจริงๆ แต่เป็นการตัดสินใจว่าราคาจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงในช่วงเวลาที่กำหนด เมื่อออปชันหมดเวลา ดีลจะปิดอัตโนมัติ และอาจได้ผลลัพธ์จากการลงทุนเป็นกำไรหรือขาดทุน

มาดูรายละเอียดว่าออปชันสองประเภทต่างกันอย่างไร

 ไบนารีออปชันดิจิตอลออปชัน
เหตุการณ์ที่กำหนดผลลัพธ์เฉพาะทิศทางของราคาเท่านั้น ขึ้นหรือลงทิศทางของราคา + ระยะห่างที่ราคาเคลื่อนที่จากราคาใช้สิทธิ์
ศักยภาพการทำกำไรสูงถึง 95%สูงถึง 900%
เวลาหมดอายุตั้งแต่ 1 นาที จนถึง 1 เดือน1 นาที 5 นาที 15 นาที
ผลตอบแทนจากความเสี่ยงไม่มีทางสูญเสียมากกว่ายอดเงินลงทุนหรือไม่มีทางชนะมากกว่าที่กำหนดไว้ %การขาดทุนอาจมากกว่าเงินลงทุนเริ่มแรก เช่นเดียวกับกำไรที่ได้รับ

อภิธานศัพท์ดิจิตอลออปชัน

มาทำความคุ้นเคยกับคำศัพท์สำคัญเพื่อให้เทรดดิจิตอลออปชันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ราคาใช้สิทธิ์ (Strike Price)

ราคาใช้สิทธิ์ (Strike Price) เป็นระดับเป้าหมายที่ราคาปิดต้องมากกว่า (สำหรับออปชันสูงขึ้น “Higher”) หรือน้อยกว่า (สำหรับออปชันลดลง “Lower”) เพื่อให้การเทรดทำกำไรได้

ระดับราคาใช้สิทธิ์บนกราฟจะปรากฏในช่องสีขาวทางด้านขวาของหน้าจอ วางเมาส์เหนือราคาใช้สิทธิ์เพื่อดูว่าเปอร์เซ็นต์กำไรที่คาดหวังเปลี่ยนแปลงอย่างไร ยิ่งความน่าจะเป็นน้อยลงที่ราคาจะแตะระดับราคาใช้สิทธิ์ที่เลือก โอกาสทำกำไรก็ยิ่งสูงตาม

ราคาใช้สิทธิ์บนกราฟราคาดิจิตอลออปชัน
ราคาใช้สิทธิ์บนกราฟราคาดิจิตอลออปชัน

เวลาหมดอายุ

เทรดจะถูกปิดโดยอัตโนมัติตามเวลาที่เลือก ระยะเวลาของดิจิตอลออปชันที่ IQ Option จะอยู่ที่ตั้งแต่ 1 นาที ไปจนถึง 15 นาที เวลาหมดอายุจะแสดงบนกราฟเป็นเส้นสีแดง

เวลาหมดอายุสำหรับการเทรดดิจิตอลออปชัน
เวลาหมดอายุสำหรับการเทรดดิจิตอลออปชัน

ข้อเสนอการจ่ายเงิน

นี่คือกำไรที่จะได้รับหากคาดการณ์ได้ถูกต้อง

เปอร์เซ็นต์ความสามารถในการทำกำไรจะแตกต่างกันไปตามราคาใช้สิทธิ์และสามารถดูได้ที่ส่วนเวลาหมดอายุ

เดดไลน์การซื้อ

เส้นประสีขาวบนกราฟแสดงเวลาที่สามารถซื้อออปชันได้ ก่อนจะถึงเดดไลน์สามารถซื้อออปชันของสินทรัพย์เดียวกันได้มากเท่าที่ต้องการในทุกทิศทางและทุกระดับราคาใช้สิทธิ์

เดดไลน์การซื้อสำหรับการเทรดดิจิตอลออปชัน
เดดไลน์การซื้อสำหรับการเทรดดิจิตอลออปชัน

คอลออปชัน (Call Option)

เรียกอีกชื่อว่า “สูงกว่า (Higher)” หรือออปชันขาขึ้น (Bullish) คอลออปชันจะได้กำไรหากราคาปิดสูงกว่าราคาใช้สิทธิ์

พุทออปชัน (Put Option)

เรียกอีกอย่างว่า “ลดลง (Lower)” หรือออปชันขาลง (Bearish) ซึ่งจะส่งผลให้ได้กำไรหากราคาปิดต่ำกว่าราคาใช้สิทธิ์

ประเภทดิจิตอลออปชันที่ IQ Option

IQ Option นำเสนอสินทรัพย์หลากหลายประเภทสำหรับดิจิตอลออปชัน รวมถึงคู่สกุลเงิน ดัชนี ทองคำ และสินทรัพย์ OTC (Over The Counter) ที่สามารถเทรดได้ในช่วงสุดสัปดาห์เมื่อตลาดอื่นๆ ปิดทำการ

  • คู่สกุลเงิน
EUR/USDEUR/JPY
GBP/USDGBP/JPY
EUR/GBPUSD/CAD
AUD/USDAUD/CAD
AUD/JPYUSD/CHF
  • ดัชนี ETF สินค้าโภคภัณฑ์
ดัชนีสกุลเงิน USDUS 30
US 500Gold
US 100 
  • ออปชัน OTC
US 500AUS 200
US 100GER 30
US 30SP 35
EU 50JP 225
UK 100HK 33
FR 40 

วิธีเทรดดิจิตอลออปชันที่ IQ Option

มาดูขั้นตอนหลักๆ ของการเปิดและปิดเทรดดิจิตอลออปชันบนแพลตฟอร์ม

1. ใส่ยอดเงินที่ต้องการลงทุนในส่วน “จำนวน” ที่ด้านขวาของหน้าจอ

2. กำหนดเวลาหมดอายุ 1 นาที 5 นาที หรือ 15 นาที

3. เลือกราคาใช้สิทธิ์จากส่วนเวลาหมดอายุ สามารถเลือกเองหรือเปิดใช้งานการเลือกราคาใช้สิทธิ์ที่ใกล้ที่สุดโดยอัตโนมัติ

4. วิเคราะห์การเคลื่อนที่ของราคาด้วยตัวชี้วัดและกลยุทธ์เทรดดิจิตอลออปชัน

5. เลือกทิศทางการเปลี่ยนแปลงราคา สูงกว่า (Higher) หรือลดลง (Lower) ก่อนที่กราฟจะถึงเดดไลน์การซื้อ

6. ระหว่างที่รอผลลัพธ์ สามารถเปิดดีลเพิ่มเติมได้โดยไม่ต้องรอให้เทรดแรกปิด

7. หากเทรดไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ก็สามารถปิดเทรดได้เองก่อนจะถึงเวลาหมดอายุเพื่อจำกัดการขาดทุน หากต้องการขายก่อนหมดเวลาให้คลิกปุ่มขายที่มุมขวาบน หรือไปที่ส่วน “แสดงสถานะ” ที่ด้านล่างขวาแล้วเลือกออปชันที่ต้องการขาย

การปิดสถานะก่อนหมดเวลา
การปิดสถานะก่อนหมดเวลา

กลยุทธ์เทรดดิจิตอลออปชัน

ดิจิตอลออปชันและไบนารีออปชันค่อนข้างคล้ายกัน ดังนั้นกลยุทธ์ที่ชอบใช้กับไบนารีออปชันก็สามารถนำมาใช้กับดิจิตอลออปชันได้เหมือนกัน

ด้านล่างเป็นตัวอย่างกลยุทธ์เทรดดิจิตอลออปชันที่นำไปปรับใช้ได้

1. CCI + Bollinger Bands

เหมาะกับออปชัน 15 นาที กลยุทธ์นี้ใช้หามูลค่าสินทรัพย์ที่เป็นจุดยอด ทั้งจุดสูงสุดและจุดต่ำสุด เพื่อหาจังหวะเข้าเทรดที่เหมาะสม

วิธีการใช้งาน

1. ไปที่ส่วน “ตัวชี้วัด” ที่อยู่ในเมนูด้านซ้ายล่าง ใช้ตัวชี้วัดสองตัวด้วยการตั้งค่าต่อไปนี้

CCIBollinger Band
ช่วงเวลา : 40
ระดับซื้อมากเกินไป/ขายมากเกินไป : +300/-300
ช่วงเวลา : 14
ความเบี่ยงเบน : 2

2. ตั้งค่ากราฟเป็นกรอบเวลา 5 นาที

3. รอให้ CCI ทะลุระดับซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป

4. มองหาการยืนยันจาก Bollinger Bands สังเกตการปิดของแท่งเทียนเหนือเส้นบนหรือเส้นล่าง

5. เปิดเทรด

☝️
ซื้อพุทออปชัน (Put Option) ถ้า CCI ทะลุระดับ +300 และแท่งเทียนปิดเหนือ Bollinger Band เส้นบน

เลือกคอลออปชัน (Call Option) หาก CCI ทะลุระดับ -300 และแท่งเทียนปิดต่ำกว่า Bollinger Band เส้นล่าง

ในตัวอย่างด้านล่าง แท่งเทียนสีเขียวทะลุผ่าน Bollinger Band เส้นบนสำเร็จตามมาด้วยแท่งเทียนสีแดง ส่งสัญญาณให้เริ่มเปิดเทรดขาลง ในขณะเดียวกัน CCI ก็ทะลุระดับ +300 ยิ่งตอกย้ำถึงเซนติเมนต์ขาลง

สัญญาณขาลงบนกราฟราคาดิจิตอลออปชัน
สัญญาณขาลงบนกราฟราคาดิจิตอลออปชัน

2. Ehler’s Fisher Transform + Stochastic

กลยุทธ์นี้มีลักษณะคล้ายกับกลยุทธ์ก่อนหน้า ซึ่งจะหาจุดกลับตัวของแนวโน้มเพื่อเข้าเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีการใช้งาน

1. ไปที่ส่วน “ตัวชี้วัด” แล้วใช้ตัวชี้วัด 2 ตัวด้วยการตั้งค่าต่อไปนี้

Ehler’s Fisher TransformStochastic Oscillator
ช่วงเวลา : 10ช่วงเวลา K : 20
ปรับเรียบ : 3
ช่วงเวลา D : 3

2. ตั้งค่ากราฟเป็นกรอบเวลา 5 นาที

3. จับตาดูเส้น Fisher Transform ว่าข้ามระดับ +2000 หรือ -2000

4. หาการยืนยันจากตัวชี้วัด Stochastic สังเกตว่าเส้นตัดต่ำกว่า 20 หรือตัดเหนือ 80

5. เข้าเทรด

☝️
ซื้อพุทออปชัน (Put Option) ถ้าเส้น Fisher Transform ตัดเหนือ 2000 และเส้น Stochastic ตัดเหนือ 80

เลือกคอลออปชัน (Call Option) ถ้าเส้น Fisher Transform ตัดต่ำกว่า -2000 และเส้น Stochastic ตัดต่ำกว่า 20

ตัวอย่างการเทรดดิจิตอลขาลงด้วยกลยุทธ์ Fisher Transform + Stochastic
ตัวอย่างการเทรดดิจิตอลขาลงด้วยกลยุทธ์ Fisher Transform + Stochastic

เนื่องจากการเทรดดิจิตอลออปชันเกี่ยวข้องกับการคาดการณ์ทิศทางของราคาและระยะที่ราคาเคลื่อนที่ การใช้กลยุทธ์สวิงเทรดจึงอาจเป็นประโยชน์ แม้ว่าโดยทั่วไปจะเหมาะกับกรอบเวลาที่นานกว่า แต่แนวทางนี้ช่วยเพิ่มความสามารถในการวัดความผันผวนของตลาดได้อย่างแม่นยำ

เคล็ดลับเทรดดิจิตอลสำหรับมือใหม่

ยึดหลักเหตุและผล

กำไรที่อาจได้รับ 200-300% หรือมากกว่านั้น อาจเป็นสิ่งที่ล่อตาล่อใจและยากที่จะต้านทาน จำไว้ว่า ยิ่งผลตอบแทนสูง ยิ่งมีโอกาสน้อยลงที่ราคาจะไปถึงระดับนั้นก่อนออปชันจะหมดอายุ เลือกระดับราคาใช้สิทธิ์ที่ให้ผลตอบแทนสูงต่อเมื่อการวิเคราะห์ทางเทคนิคให้สัญญาณที่ชัดเจนว่าความเสี่ยงนั้นคุ้มค่า

ทำตามแนวทางการจัดการความเสี่ยง

การจัดการความเสี่ยงมี 2 แนวทางหลักๆ ด้วยกัน

  • รับความเสี่ยงได้ต่ำ (Conservative) – จำกัดความเสี่ยงต่อการเทรดไม่เกิน 2% ของยอดเงินในบัญชี
  • กล้าได้กล้าเสี่ยง (Aggressive) – เสี่ยง 5% ของยอดเงินที่เหลือต่อการเทรด

ทดสอบในบัญชีทดลอง

ถ้าอยากหาว่ากลยุทธ์เทรดดิจิตอลออปชันไหนใช้ได้ผล ให้ลองทดสอบด้วยกลยุทธ์นับสิบเพื่อหากลยุทธ์ที่เหมาะสม แต่ละกลยุทธ์อาจต้องลองเทรดประมาณ 20 ครั้งเพื่อทำความเข้าใจและดูว่าจะได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพหรือไม่

บัญชีทดลองช่วยให้สามารถทดสอบกลยุทธ์ได้โดยไม่มีความเสี่ยง เมื่อหากลยุทธ์ที่เหมาะกับเป้าหมายได้แล้ว ให้เปลี่ยนไปใช้บัญชีเทรดจริงเพื่อลองเทรดด้วยเงินจริง

สรุป

ดิจิตอลออปชันเป็นออปชันที่มีความคล้ายกับไบนารีออปชัน ซึ่งจะให้ผลลัพธ์หลากหลายกว่าและผลตอบแทนที่เป็นไปได้สูงกว่า การเข้าใจหลักการทำงานและการมีกลยุทธ์ที่ดีเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้สามารถทำกำไรได้มากถึง 900% ในเวลาเพียง 1–15 นาที

สิ่งถัดไปที่คุณควรเรียนรู้? หมุนวงล้อเพื่อค้นหา!

rainbow circle

7 เทคนิคจัดการเงินในการเทรด

แบ่งปัน

บทความก่อนหน้า

เพิ่มพลังกลยุทธ์ด้วย Relative Vigor Index
Trading with the Relative Vigor Index
เพิ่มพลังกลยุทธ์ด้วย Relative Vigor Index

บทความถัดไป

สกัลปิ้ง (Scalping) – กลยุทธ์พิเศษสำหรับนักเทรดที่ชอบการเทรดแบบเข้าออกไว
สกัลปิ้ง (Scalping) – กลยุทธ์พิเศษสำหรับนักเทรดที่ชอบการเทรดแบบเข้าออกไว

โพสต์ล่าสุด

เพิ่มพลังกลยุทธ์ด้วย Relative Vigor Index

11.09.2024

Trading with the Relative Vigor Index

หนังสือยอดเยี่ยม 4 เล่ม จากผู้เชี่ยวชาญการเทรด

07.09.2024

ตัวชี้วัด Psychological Line – เคล็ดลับและกลยุทธ์เทรด

02.09.2024

Psychological Line indicator

คู่มือสำหรับนักเทรดที่ห่างหายไปนานเพื่อกลับเข้าสู่ตลาดอีกครั้ง

29.08.2024

How to get back to trading

3 เคล็ดลับการเทรดเพิ่มประสิทธิภาพ

24.08.2024

ปลดล็อกรหัสลับตลาด – รูปแบบกราฟ Diamond

17.08.2024

diamond chart patterns for trading