สกุลเงินดิจิตอลมีช่วงเวลาของตัวเองในปี 2017 ช่วงที่สกุลเงินดิจิตอลกำลังเติบโต Bitcoin เกือบจะถึงจุดสูงสุดที่ไม่น่าเชื่อที่ $20,000 ซึ่งหยุดอยู่ที่ $19,783 นับแต่นั้น Bitcoin มีมูลค่าตกลงมามากกว่า 80% อยู่ที่ $3,500 ในปี 2018 ตลาดเงินดิจิตอลที่ล่มสลายรุนแรงกว่าเหตุการณ์การล่มสลายของ ฟองสบู่ดอทคอมในช่วงปี 90
อย่างไรก็ตาม ปี 2020 ราคา Bitcoin เริ่มที่จะเติบโตอย่างช้าๆ และมั่นคง ตอนนี้ BTC หนึ่งเหรียญมีมูลค่ามากกว่า $46,000 ในขณะที่หลายคนยังคงเชื่อว่าสกุลเงินดิจิตอลจะเป็นฟองสบู่และมูลค่าของมันสูงเกินจริง แต่คนอื่นๆ ก็ยังคงเก็งกำไรซื้อและขายหรือแม้แต่ถือครองอย่างสม่ำเสมอตลอดหลายปีที่ผ่านมา ขณะที่นักเทรดแต่ละคนต้องตัดสินใจว่าจะเข้าสู่ตลาดเงินดิจิตอลหรือไม่ นี่คือประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาเมื่อทำการตัดสินใจ
เงินดิจิตอลอาจได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
หลายบริษัทนำ Bitcoin และสกุลเงินดิจิตอลอื่นๆ มาใช้ในธุรกิจ เช่น PayPal ได้กลายมาเป็นหนึ่งในบริษัทล่าสุดที่เปิดบริการใหม่ อนุญาตให้ผู้ใช้สหรัฐามารถซื้อ ขาย และถือครองสกุลเงินได้โดยตรงจากกระเป๋าเงิน PayPal PayPal กระตุ้นการตัดสินใจด้วยความนิยมที่แพร่หลายในการใช้สกุลเงินดิจิตอลที่ถูกผลักดันโดยเหตุการณ์ COVID-19
Tesla เพิ่งยืนยันการซื้อ Bitcoin มูลค่า 1.5 พันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อ “กระจายความหลากหลายและเพิ่มผลตอบแทนสูงสุด” ด้วยนเงินที่ไม่มีส่วนสำคัญสำหรับการคงสภาพบริษัท นอกจากนั้น Tesla ประกาศว่าบริษัทจะเริ่มยอมรับ Bitcoin เป็นวิธีการชำระเงินสำหรับผลิตภัณฑ์ของพวกเขาในอนาคตอันใกล้ แม้ว่าจะมีข้อจำกัดในช่วงแรก
แม้แต่กับบางธนาคารก็ค่อยๆ เข้าร่วมกระแสเงินดิจิตอลนี้ ทั้งหมดนี้หมายความว่าเงินดิจิตอลเริ่มที่จะเข้าถึงได้ง่ายมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือสาเหตุที่ตอนนี้มีคนจำนวนมากขึ้นเริ่มสนใจ
จำนวนสูงสุดของ BTC
อุปทานสูงสุดของ Bitcoin คือ 21 ล้าน และจำนวนที่ถูกขุดไปแล้วมีมากกว่า 18.5 ล้าน
แม้ว่าจำนวนเงินสูงสุดจะไม่หมุนเวียนจนถึงปี 2140 แต่อุปทานก็ลดลงในขณะที่อุปสงค์เพิ่มสูงขึ้นทำให้มูลค่าของสกุลเงินดิจิตอลนี้เติบโตขึ้น ความต้องการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วสำหรับสกุลเงินดิจิตอลอาจเพิ่มราคาของ Bitcoin ให้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนำมาใช้เป็นวิธีการชำระเงินจำนวนมาก
เงินดิจิตอลอาจป้องกันภาวะเงินฝืดได้
ขณะที่มูลค่าของสกุลเงินกระดาษ โดยเฉพาะดอลลาร์สหรัฐ กำลังลดลงเนื่องจากผลของการแพร่ระบาดของโรค ราคาของสินค้ากลับเพิ่มขึ้น นักลงทุนจำนวนมากเชื่อว่า BTC จะเป็นการป้องกันความเสี่ยงจากภาวะเงินฝืดเนื่องจากลักษณะการกระจายอำนาจจึงไม่สามารถลดมูลค่าได้เหมือนสกุลเงินกระดาษ
ความผันผวนและความเสี่ยงสูง
แม้ว่าจะมีเหตุผลว่าทำไมสกุลเงินดิจิตอลยังคงเป็นตราสารที่น่าสนใจสำหรับนักเทรดจำนวนมาก แต่สิ่งสำคัญที่ต้องเน้นย้ำคือความผันผวนของมัน ในขณะที่ช่วงเวลาของการทวีมูลค่าอย่างรวดเร็วหมายถึงผลตอบแทนที่เป็นไปได้สำหรับนักเทรด แต่บ่อยครั้งที่การเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเหล่านี้ตามมาด้วยการลดลงอย่างรวดเร็ว แม้ว่าอาจไม่จำเป็นต้องเป็นจริงสำหรับทุกเงินดิจิตอล แต่ Bitcoin ก็ไม่ได้อยู่เพียงลำพังในการเคลื่อนไหวที่ผันผวนของตัวเอง
นักลงทุนจำนวนมากทำการคาดการณ์และประมาณว่า Bitcoin จะมีค่าเพิ่มต่อไป บางส่วนบอกว่าตัวเลขจะอยู่ที่ประมาณ $100,000 และ $150,000 อย่างไรก็ตาม บริษัทใหญ่ๆ เช่น Tesla หรือ Square ได้เข้าซื้อสกุลเงินดิจิตอล ทำให้มันมีราคาพุ่งสูงขึ้นไป นักเทรดหรือผู้ถือครองที่ตัดสินใจกระจายพอร์ตการลงทุนด้วย Bitcoin จำเป็นต้องทำการวิจัยของตนเองและเตรียมพร้อมสำหรับการสูญเสีย
คุณคิดเห็นอย่างไรเกี่ยวกับความนิยมของสกุลเงินดิจิตอลครั้งใหม่ บอกให้เรารู้ด้วยการแสดงความคิดเห็นด้านล่าง!
