ทำไมปริมาณการเทรดจึงสำคัญ?

ธันวาคม 4, 2019

2 นาที

ในการเทรด ปริมาณเป็นตัววัดว่าสินทรัพย์มีการซื้อขาย ณ เวลาใดเวลาหนึ่ง ตัววัดที่สำคัญนี้มักถูกมองข้ามโดยนักเทรดมือใหม่ อ่านบทความนี้เพื่อทำความเข้าใจแนวคิดเรื่องปริมาณให้ดีขึ้น และเรียนรู้วิธีนำไปใช้กับการเทรด

ทำไมถึงสำคัญ

ทำไมการติดตามปริมาณการซื้อขายจึงเป็นเรื่องสำคัญ คุณไม่ได้รับข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดจากกราฟราคาใช่ไหม กลับกลายเป็นว่าปริมาณคือสิ่งที่มีความหมาย ดังที่คุณทราบ สินทรัพย์ที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนทั้งหมดเป็นไปตามหลักการของอุปสงค์และอุปทาน อุปทานยิ่งสูง (ทุกอย่างเท่าเทียมกัน) ราคายิ่งต่ำ (ทุกอย่างเท่าเทียมกัน) อุปสงค์ยิ่งสูง ราคายิ่งสูง เช่นเดียวกับสถานการณ์ที่มีจำนวนดีลเพิ่มขึ้น เมื่อผู้เข้าร่วมตลาดมีความไม่แน่นอน และราคาในอนาคตไม่มีทางแน่นอน กิจกรรมการซื้อขายจะลดลง เนื่องจากนักเทรดที่เพิ่มมากขึ้น ความไม่แน่นอน (และความเสี่ยง) จึงสูงเกินไป เมื่อแนวโน้มแข็งแกร่งและราคาขยับไปในทิศทางเดียวจะทำให้จำนวนการซื้อขายเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจึงอาจกล่าวเป็นกฎได้ว่า ปริมาณการซื้อขายจะเพิ่มขึ้นในช่วงที่มีแนวโน้มแข็งแกร่งและลดลงในช่วงที่ตลาดทรงตัว

ตัวชี้วัดปริมาณบนแพลตฟอร์มเทรด IQ Option

โปรดทราบว่าปริมาณไม่ควรถูกมองเป็นเครื่องมือทำการตัดสินใจ แต่เป็นเครื่องมือเสริมที่เมื่อรวมกับตัวชี้วัดอื่นๆ จะสามารถช่วยให้คุณตัดสินใจลงทุนได้อย่างสมบูรณ์

วัดปริมาณอย่างไร?

บนแพลตฟอร์ม IQ Option มีตัวชี้วัดปริมาณ 4 ชนิด ทั้ง 4 ชนิด สามารถพบได้ในแท็บ ‘ปริมาณ’ ของเมนู ‘ตัวชี้วัด’

Accumulation/Distribution คือตัวชี้วัดตามปริมาณที่สามารถช่วยติดตามกระแสทั่วไปของเงินที่เข้าและออกจากสินทรัพย์ที่ต้องการได้ เมื่อตัวชี้วัดกำลังเพิ่มขึ้ ผู้คนจะต้องการซื้อสินทรัพย์ เมื่อทิศทางตรงข้ามเป็นจริง และตัวชี้วัดกำลังเคลื่อนที่ลง ผู้คนจะขาย

Net Volume ถูกคำนวณด้วยการลบปริมาณ downtick จากปริมาณ uptick ตลอดช่วงเวลาที่กำหนด ไม่เหมือนกับปริมาณทั่วไป มันสามารถช่วยคุณกำหนดความเชื่อมั่นของตลาดที่เกิดขึ้น เมื่อ Net Volume ต่ำกว่า 0 ความเชื่อมั่นถือว่าเป็น bearish และนักลงทุนเพิ่มเติมคิดที่จะขายสินทรัพย์ เมื่อตัวชี้วัดมากกว่าเส้นศูนย์ ความเชื่อมั่นถือว่าเป็น bullish และนักลงทุนเพิ่มเติมคิดที่จะซื้อสินทรัพย์

Volume Oscillator ไม่แสดงเพียงแต่ปริมาณ แต่ยังการเปลี่ยนแปลงในปริมาณและมีความเหมือนกับ Relative Strength Index ด้านการออกแบบ เมื่อตัวชี้วัดอยู่เหนือกว่าเส้นกลางและเพิ่มขึ้น ปริมาณกำลังเติบโตด้วยความเร็ว เมื่อตัวชี้วัดอยู่ต่ำกว่าเส้นกลางและลดลง ปริมาณกำลังลดลงด้วยความเร็ว เมื่อตัวชี้วัดอยู่ที่ศูนย์ ปริมาณอยู่ที่ระดับเดียวกัน

Weis Wave Volume ใช้ปริมาณและปรับเป็นกราฟคลื่น สิ่งที่คุณจะได้รับคือคลื่นการขายและการซื้อ หรือกล่าวได้ว่า มันทำให้ปริมาณเพิ่มขึ้นมากและ ช่วยนักเทรดให้มองเห็นการเชื่อมโยงได้ดีขึ้นระหว่างการดำเนินราคาและปริมาณ ตัวชี้วัดนี้ถือว่าเป็นตัวที่ซับซ้อนที่สุด แต่คุณก็ต้องทำความเข้าใจ

จากที่คุณเห็น ตัวชี้วัดทั้งหมดจากรายการนี้เกี่ยวข้องกับปริมาณแต่มีความแตกต่างเพียงเล็กน้อย ทดลองใช้งานและตัดสินใจด้วยตัวของคุณเองว่าตัวชี้วัดไหนเหมาะสมกับคุณและสไตล์การเทรดของคุณ ใครจะรู้ บางทีคุณอาจต้องการใช้ตัวชี้วัดแต่ละตัวขึ้นอยู่กับเงื่อนไขตลาด

ปริมาณการเทรด เมื่อถูกระบุและตีความอย่างถูกต้อง สามารถเพิ่มผลลัพธ์การเทรดของคุณได้อย่างมหาศาล ไม่เหมือนกับตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่นๆ ปริมาณไม่ได้มาจากการอ่านค้าจากกราฟราคา (เนื่องจากความจริงที่ว่าปริมาณไม่ถูกแสดงบนกราฟราคา)

สิ่งถัดไปที่คุณควรเรียนรู้? หมุนวงล้อเพื่อค้นหา!

rainbow circle

หนังสือสร้างแรงบันดาลใจ 3 เล่ม เกี่ยวกับการเทรดที่ต้องอ่าน

แบ่งปัน

บทความก่อนหน้า

ภาพรวมตลาด – สินทรัพย์ที่ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดและราคาลดลงสูงสุดในปี 2024
Best assets of 2024
ภาพรวมตลาด – สินทรัพย์ที่ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดและราคาลดลงสูงสุดในปี 2024

บทความถัดไป

รูปแบบแท่งเทียน: 4 เคล็ดลับเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
รูปแบบแท่งเทียน: 4 เคล็ดลับเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

โพสต์ล่าสุด

ภาพรวมตลาด – สินทรัพย์ที่ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดและราคาลดลงสูงสุดในปี 2024

17.12.2024

Best assets of 2024

3 กลยุทธ์ที่มีผลกระทบสูงกับการเทรดไบนารีออปชัน

06.12.2024

Best Binary Options Strategies

วิธีขายชอร์ตคริปโต เพื่อทำกำไรในตลาดหมี

25.11.2024

Short selling on the crypto market.

7 นิสัยส่งเสริมให้นักเทรดประสบความสำเร็จ

23.11.2024

7 habits of winning traders

การเทรดช่วงเทศกาลวันหยุด – สิ่งที่ต้องรู้

21.11.2024

Trading on Black Friday and holidays

เหตุใดการพัฒนาจิตวิทยาการเทรดของคุณจึงสำคัญ

20.11.2024

trading psychology