การเทรดช่วงเทศกาลวันหยุด – สิ่งที่ต้องรู้

โลกของการเทรดเปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เนื่องจากตลาดการเงินได้รับผลกระทบจากปัจจัยที่แตกต่างกันอยู่ตลอดเวลา ปัจจัยบางอย่างคาดเดาได้ยากเนื่องจากเกิดขึ้นอย่างไม่คาดคิด บางปัจจัยคาดเดาได้ง่ายกว่าเพราะเกิดขึ้นตามวัฏจักรหรือการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล ซึ่งรวมถึงเทศทาลยอดนิยมที่อาจมีอิทธิพลต่อสินทรัพย์บางอย่างและให้โอกาสเทรดที่ดี โดยเฉพาะกิจกรรมส่งท้ายปีที่มีระยะเวลาเกือบทั้งเดือน เริ่มตั้งแต่แบล็คฟรายเดย์เดือนพฤศจิกายนและปิดท้ายด้วยการเฉลิมฉลองปีใหม่

ในบทความนี้จะมาดูเกี่ยวกับปัจจัยสำคัญในช่วงวันหยุดเทศกาลที่กำลังจะมาถึง อ่านต่อเพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นกับตลาดในช่วงไม่กี่เดือนข้างหน้า และ 3 ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเทรดช่วงแบล็กฟรายเดย์และวันหยุดเทศกาลของปีนี้

การเทรดในวันแบล็กฟรายเดย์และช่วงปีใหม่ – สินทรัพย์สำคัญ

วันหยุดมักเริ่มต้นด้วยการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้คนจะซื้อของในช่วงคริสต์มาสและปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ยอดขายออนไลน์ทั่วโลกในช่วงวันหยุดเทศกาลปี 2023 มีมูลค่าสูงถึง 1.17 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งหมายถึงการเพิ่มขึ้นของรายได้และการเติบโตของสต็อกสินค้าสำหรับธุรกิจจำนวนมากในช่วงเวลาดังกล่าว นักเทรดบางคนอาจมองว่าการขึ้นราคาในช่วงเทศกาลวันหยุดเป็นโอกาสขยายพอร์ตลงทุนและมองหาโอกาสเทรดใหม่ๆ

มาดูธุรกิจ 3 ประเภทที่น่าสนใจสำหรับการค้นหาโอกาสเทรดช่วงแบล็กฟรายเดย์ และเรียนรู้เพื่อหาแนวทางการเทรดในช่วงปีใหม่

1. บริษัทค้าปลีก

ช่วงเทศกาลวันหยุดมักเกี่ยวข้องกับการช็อปปิ้ง เนื่องจากผู้คนจะซื้อของขวัญให้เพื่อนและครอบครัว เริ่มต้นด้วย Black Friday (แบล็คฟรายเดย์) ซึ่งตามธรรมเนียมจะถัดจากวันขอบคุณพระเจ้า แบล็คฟรายเดย์เป็นช่วงที่ทำกำไรได้มากที่สุดช่วงหนึ่งสำหรับบริษัทค้าปลีก ซึ่งส่งผลกระทบเชิงบวกต่อรายได้และราคาหุ้นของบริษัท

ไม่ใช่เรื่องยากที่จะคาดเดาว่ามีบริษัทไหนบ้างที่ได้รับกำไรจากการใช้จ่ายในช่วงวันหยุดที่กำลังจะมาถึง ดูรายการเซกเตอร์บางส่วนที่อาจมีความคึกคักเป็นพิเศษเพื่อพิจารณาเกี่ยวกับการเทรดในช่วงแบล็กฟรายเดย์ 2024 และวันหยุดเทศกาลส่งท้ายปี

• แฟชั่นและความงาม: L’Oreal, LVMH, Adidas และอื่นๆ
• อิเล็กทรอนิกส์: Apple, Microsoft และอื่นๆ
• ยานยนต์: Volkswagen, BMW, Ford และอื่นๆ
• เครือข่ายค้าปลีกขนาดใหญ่: Walmart, Best Buy, Costco และอื่นๆ
• อีคอมเมิร์ซ: eBay, Shopify, Etsy และอื่นๆ

2. BNPL (ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง)

เนื่องจากค่าครองชีพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง(BNPL) จึงดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้นเรื่อยๆ BNPL อนุญาตให้ผู้บริโภคซื้อสินค้าโดยไม่ต้องจ่ายราคาเต็มทันที แต่จะชำระเงินเล็กน้อยระหว่างการซื้อ จากนั้นจึงชำระส่วนที่เหลือในช่วงเวลาหนึ่ง โดยปกติจะไม่มีดอกเบี้ยหรือค่าธรรมเนียมใดๆ บริษัทค้าปลีกหลายแห่งเสนอ BNPL เป็นวิธีการชำระเงิน เนื่องจากช่วยดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้นและเพิ่มการใช้จ่าย

PayPal เปิดตัวบริการ BNPL ในปี 2020 และได้กลายเป็นหนึ่งในผู้นำของอุตสาหกรรม ดังนั้นหุ้นจึงอาจเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่ควรติดตามในช่วงเทศกาลวันหยุดนี้

3. ห่วงโซ่อุปทาน

เนื่องจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เป็นผลิตภัณฑ์ประเภทหนึ่งที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในช่วงการขายตามฤดูกาล จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงวงจรการผลิตด้วย ทุกอย่างเริ่มต้นด้วยชิปและส่วนประกอบอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับการผลิตแล็ปท็อป สมาร์ทโฟน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ หุ้นบางส่วนที่เป็นตัวแทนในเซกเตอร์คือ Qualcomm, Micron, Nvidia และ AMD 

โปรดทราบว่าแม้ว่าหุ้นในเซกเตอร์นี้จะมีเพอร์ฟอแมนซ์ดีระหว่างช่วงระยะหนึ่ง แต่อาจมีปัจจัยอื่นที่ส่งผลต่อหุ้นบางตัว ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องตรวจสอบปัจจัยอื่นที่อาจส่งผลต่อผลงานของหุ้นเพื่อทำการตัดสินใจอย่างมีเหตุผลและไม่อาศัยแต่เพอร์ฟอร์แมนซ์ในช่วงฤดูกาลวันหยุดเท่านั้น เช่น รายงานรายได้ขององค์กรมักรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์เงื่อนไขของหุ้นและศักยภาพ

นักเทรดต้องติดตามข่าวเกี่ยวกับบริษัทเหล่านี้เพื่อรับข่าวสารปัจจุบัน และลงมือได้อย่างสอดคล้องต่อแนวทางการเทรดในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถติดตามข่าวการเงินที่สำคัญที่สุดได้โดยตรงจากแพลตฟอร์ม IQ Option เพียงไปที่ส่วน “การวิเคราะห์ตลาด” ของห้องเทรดและรับข่าวสารปัจจุบันเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาด

3 ปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเทรดช่วงแบล็กฟรายเดย์และเทศกาลวันหยุด

การเลือกเทรดสินทรัพย์ในช่วงแบล็กฟรายเดย์ 2024 และเทศกาลวันหยุดปลายปีมีปัจจัยสำคัญที่นักเทรดต้องพิจารณา ดูรายละเอียด 3 สิ่งสำคัญที่อาจเป็นประโยชน์

1. ระวังความผันผวน

ความผันผวนระหว่างการเทรดช่วงวันหยุดเทศกาลคือหนึ่งในปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม ช่วงนี้มักเป็นช่วงที่มีปริมาณการเทรดน้อยกว่าปกติ ซึ่งนำไปสู่สเปรดที่กว้างกว่าและการเปลี่ยนแปลงของราคาที่สูงขึ้น ตัวชี้วัดทางเทคนิคที่วัดความผันผวน เช่น ATR อาจมีประโยชน์เป็นพิเศษในช่วงเวลานี้ อ่านบทความนี้เพื่อเรียนรู้วิธีการนำไปใช้ในการเทรด CFD เทรดด้วย ATR (Average True Range) – ตัวชี้วัดความผันผวน

2. พิจารณาเรื่องเวลา

การเลือกเวลาที่ดีที่สุดในการเทรด CFD คือสิ่งสำคัญเสมอ แต่สำคัญยิ่งขึ้นในช่วงวันหยุดเทศกาล หนึ่งสิ่งที่ต้องพิจารณาเป็นพิเศษในการเทรดช่วงนี้ อย่าลืมตรวจสอบชั่วโมงตลาดสำหรับสินทรัพย์บางอย่าง เช่น หุ้นอเมริกาไม่เทรดในวันขอบคุณพระเจ้า ขณะที่สินทรัพย์อื่นๆ อาจปิดเร็วกว่าปกติ อีกตัวอย่างคือ Black Friday ซึ่งเทรดได้ครึ่งวันสำหรับตลาดหุ้น

3. ประเมินปริมาณการเทรด

โดยปกติปริมาณการเทรดจะลดลงในช่วงกลางเดือนธันวาคมไปจนถึงปีใหม่ แต่ ยังมีเหตุการณ์ที่เรียกว่า “อิทธิพลของวันหยุด” ดังนั้นวันก่อนวันหยุดจะมีปริมาณการเทรดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจนำเสนอโอกาสในการเทดรได้ อย่างไรก็ตาม โปรดทราบว่ากิจกรรมการเทรดและราคาสินทรัพย์อาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องกับความผันผวนตามเทศกาล ดังนั้นจึงไม่มีการรับประกันเพอร์ฟอร์แมนซ์ของสินทรัพย์

สรุป

การเทรด CFD ในช่วงวันหยุดเทศกาลมีข้อดีและข้อเสีย ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องพิจารณาก่อนเข้าสู่ตลาด เรียนรู้เกี่ยวกับส่วนสำคัญที่อาจได้รับผลกระทบในช่วงก่อนวันหยุดที่อาจเป็นประโยชน์ในการค้นหาโอกาสการเทรดที่เป็นไปได้ คำนึงถึงปัจจัยหลักที่อาจส่งผลต่อการเทรดในวัน Black Friday และช่วงเทศกาลวันหยุดอื่นๆ เช่น ความผันผวน ช่วงเวลา และปริมาณการเทรด