การเทรดทุกวิธีมีข้อดีและข้อเสีย ดังนั้นจึงควรทดสอบแนวทางเพื่อค้นหาวิธีที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุด นักเทรดบางส่วนไม่มีเวลาและความอดทนที่จะใช้งานเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคจำนวนมากและมองหาการบ่งชี้ที่เป็นไปได้ ลองใช้แนวทาง Moving Average Bounce ที่เกี่ยวข้องกับตัวชี้วัดเดียวเพื่อติดตามราคาสินทรัพย์ CFD
ลักษณะการทำงานของ Moving Average Bounce
แนวทางนี้จะดูจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของระยะสั้นเพื่อหาทิศทางโดยรวมของแนวโน้ม ซึ่งเป็นการเฝ้าดูจุด “เด้งกลับ” เพื่อหาจังหวะเทรดที่เป็นไปได้เมื่อราคาสินทรัพย์เคลื่อนที่ไปมาตามทิศทางของแนวโน้ม การนำแนวทางนี้ไปใช้งานจะช่วยให้นักเทรดสามารถติดตามกิจกรรมบางอย่างบนกราฟ เมื่อราคาเคลื่อนที่จากเส้น Moving Average และเด้งกลับสามารถใช้จังหวะนี้เข้าเทรดได้
มาดูรายละเอียดเพิ่มเติมเพื่อทำความเข้าใจวิธีการทำงาน
ราคาสินทรัพย์ขึ้นลงตามธรรมชาติตลอดทั้งวัน (หรือเป็นระยะเวลานานกว่านั้น) อย่างไรก็ตาม ความผันผวนเหล่านี้มักจะอยู่ภายในช่วงหนึ่ง ส่งผลให้เกิดแนวโน้มขาขึ้นหรือขาลงโดยรวม
Moving Average Bounce ใช้ได้กับทั้งดีล Long (“ซื้อ”) และ Shot (“ขาย”) ซึ่งใช้ Exponential Moving Average ที่ให้น้ำหนักความเคลื่อนไหวราคาล่าสุดมากกว่า สิ่งนี้ทำให้นักเทรดสามารถติดตามว่าราคาจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางใด และอาจบ่งบอกถึงช่วงเวลาเมื่อราคากระโดดและถดถอยด้วยเส้น Moving Average
☝️
วิธีนี้ได้รับการนำไปใช้งานอย่างกว้างขวางโดยนักเทรดจำนวนมาก ทั้งนักเทรดมือใหม่และนักเทรดมืออาชีพ แต่ไม่ได้รับประกันการคาดการณ์ที่สมบูรณ์แบบ หากต้องการสร้างความคุ้นเคยกับแนวทางนี้เพิ่มเติม ให้ดูที่การตั้งค่า
วิธีการตั้งค่า Moving Average Bounce
วิธีนี้ใช้การตั้งค่าเฉพาะของ Exponential MA การใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อาจช่วยขจัดความผันผวนระยะสั้นบนกราฟ และแสดงทิศทางของแนวโน้มโดยรวม นั่นหมายความว่าสามารถใช้กับสินทรัพย์ใดก็ได้ เช่น CFD ของฟอเร็กซ์ หุ้น หรือสินค้าโภคภัณฑ์
วิธีการตั้งค่า ให้ค้นหาตัวชี้วัด Moving Average ในรายการตัวชี้วัดบนแพลตฟอร์ม IQ Option อย่าลืมเลือกประเภท EMA และเปลี่ยนช่วงเวลาของตัวชี้วัดเป็น 34 นักเทรดสามารถเปลี่ยนการตั้งค่าตัวชี้วัดได้ตามต้องการและแผนการเทรดส่วนบุคคล โดยทั่วไปช่วงเวลาของตัวชี้วัดยิ่งสูง เส้นจะยิ่งเรียบ และในทางกลับกัน
ช่วงเวลาแท่งเทียนบนกราฟอาจอยู่ที่ 1 – 5 นาที กรอบเวลาระยะสั้นสามารถทำให้นักเทรดใช้วิธีนี้ได้หลายครั้งระหว่างวันหากเลือกที่จะทำเช่นนั้น
วิธีการนำ Moving Average Bounce ไปใช้งานในการเทรด CFD
ก่อนที่จะลงรายละเอียด สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าไดเวอร์เจนท์อาจเกิดขึ้น และวิธีนี้อาจไม่ทำงานได้ต้อง 100% ทุกครั้งเช่นเดียวกับตัวชี้วัดอื่นทั้งหมด ซึ่งหมายความว่าแผนการจัดการความเสี่ยงที่แข็งแกร่ง (เช่น การตั้งระดับ Stop Loss และ Take Profit) เป็นสิ่งสำคัญ
หากต้องการใช้วิธีนี้ นักเทรดอาจมองหาลำดับข้อบ่งชี้สำหรับจังหวะเข้าเทรดที่เป็นไปได้
ดีล Long (อาจชี้ให้เห็นจังหวะ “ซื้อ” ที่เป็นไปได้)
- แนวโน้มกราฟราคากำลังเป็นทิศทางขาขึ้น เคลื่อนที่ไกลออกไปจาก Exponential Moving Average
- จากนั้นราคาย้อนกลับ เคลื่อนที่ลงไปที่เส้นตัวชี้วัดและแตะเส้น หรือลงต่ำเล็กน้อย
- หลังจากนั้นแท่งเทียนไม่สามารถทำจุดต่ำสุดที่ต่ำลงเรื่อยๆ และราคาทะลุผ่านตัวชี้วัดขึ้นไป อาจเป็นการบ่งบอกถึงโอกาสเข้าเทรดที่เป็นไปได้
ยกตัวอย่าง ลองดูกราฟด้านล่าง กราฟเคลื่อนที่ขึ้น จากนั้นย้อนกลับและแตะตัวชี้วัด เด้งกลับไปในทิศทางเดียวกัน นักเทรดอาจพิจาณาช่วงเวลาของการเด้งเป็นโอกาสเข้าเทรดดีล Long
ดีล Short (อาจชี้ให้เห็นจังหวะ “ขาย” ที่เป็นไปได้)
- กราฟราคากำลังเป็นแนวโน้มขาลง เคลื่อนที่ลงมากขึ้นและห่างจากเส้นตัวชี้วัด
- กราฟย้อนกลับ ทำจุดสูงสุดใหม่ และแตะค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ หรือเกินไปเล็กน้อย
- หลังจากนั้นแท่งเทียนไม่สามารถทำจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น ราคาจะย้อนกลับ และทะลุผ่านตัวชี้วัดลงด้านล่าง ต่อเนื่องในแนวโน้มขาลง สิ่งนี้อาจเป็นการบ่งบอกถึงจุดเข้าเทรดที่เป็นไปได้
ในตัวอย่างด้านล่าง กราฟแสดงช่วงเวลาเมื่อราคาเด้งจาก Moving Average ลงด้านล่าง
ตามที่กล่าวข้างต้น กรอบเวลาแท่งเทียนในแนวทาง Moving Average Bounce อาจกำหนดที่ 1 – 5 นาที สิ่งนี้ทำให้วิธีการดังกล่าวเหมาะสำหรับการเทรดระยะสั้น นอกจากนี้สามารถนำไปใช้กับแนวทางการเทรดระยะสั้นอื่นๆ เช่น Stochastic
แต่ไม่ได้เป็นการรับประกัน 100% ว่าการคาดการณ์จะถูกต้อง ดังนั้นควรอ้างอิงตามแนวทางการเทรดของคุณเสมอ
สรุป
แนวทาง Moving Average Bounce ได้รับความนิยมสำหรับนักเทรดที่ชอบใช้กรอบเวลาระยะสั้นและมองหาข้อบ่งชี้แนวโน้มที่เป็นไปได้ แนวทางนี้จะดูจุดสูงสุดและต่ำสุดของพฤติกรรมราคาเพื่อสร้างเส้นแนวโน้มเฉลี่ยสำหรับความเคลื่อนไหวของราคา ช่วยให้นักเทรดมองเห็นการรีบาวด์ที่เป็นไปได้กับเส้นตัวชี้วัด อย่างไรก็ตาม ควรใช้แนวทางนี้ร่วมกับเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมเพื่อให้สามารถจัดการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ