STARC Bands หรือ Bollinger Bands

สิงหาคม 11, 2020

2 นาที

ตัวชี้วัด 2 อัน Stoller Average Range Channel (STARC) และ Bollinger Bands อาจดูคล้ายกันมากเมื่อนำไปใช้งานบนกราฟ มันประกอบด้วยแบนด์บนและแบนด์ล่างที่มีเส้นตัวชี้วัดอยู่ตรงกลาง ตัวชี้วัดทั้ง 2 สร้างแนวรับและแนวต้าน การตีความค่อนข้างเหมือนกัน แต่ทำงานแตกต่างกันเล็กน้อยบนกราฟ มาดูความแตกต่างระหว่างตัวชี้วัดทั้ง 2 และวิธีนำไปใช้งาน

STARC Bands กับ Bollinger Bands

ตัวชี้วัด 2 แตกต่างกันในแง่ของการคำนวณ Bollinger Bands คือตัวชี้วัดที่ได้รับความนิยมซึ่งใช้โดยนักเทรดมากมาย เพราะอ่านค่าง่ายและแสดงสัญญาณตรงๆ บนกราฟ Bollinger Bands ประกอบด้วยค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่และแบนอีก 2 อัน และมีส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1 อัน ห่างจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ตัวชี้วัดนี้แสดงโอกาสการเทรดที่เป็นไปได้ซึ่งมาพร้อมกับความผันผวน ความผันผวนของสินทรัพย์ยิ่งสูง แบนด์จะยิ่งออกห่างจากกัน

Stoller Average Range Channel ไม่เหมือนกับ Bollinger Bands ซึ่งไม่ได้อ้างอิงตามส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เส้นกลางคือ Simple Moving Average ขณะที่เส้นด้านบน (เรียกว่า STARC Band+) ถูกสร้างโดยการเพิ่ม ATR (average true range) ไปที่ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ แบนด์ด้านล่าง (STARC Band-) ถูกสร้างโดยการลบ ATR จากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ดังนั้นตัวชี้วัดนี้คือการรวมกันของ 2 ระบบการเทรดในหนึ่งเดียว นั่นคือ ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่และตัวชี้วัด ATR

คุณต้องเลือกอันไหน

หลักการของตัวชี้วัดทั้งสองอันคล้ายกัน ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับความชอบของนักเทรดว่าจะเลือกอันไหน แต่บางฟีเจอร์ของตัวชี้วัดทั้ง 2 อาจโน้มน้าวให้นักเทรดเลือกใช้แต่ละอัน

ยกตัวอย่างเช่น ตัวชี้วัด STARC นักเทรดอาจเปลี่ยนประเภทของแบนด์ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ และกำหนดเป็น Simple MA, Exponential หรือรูปแบบอื่นๆ จากรายการ นักเทรดยังสามารถเปลี่ยนแปลงตัวคูณได้อีกด้วย ค่าที่เพิ่มหรือลดส่วนเบี่ยงเบนของแบนด์ด้านบนและด้านล่าง การเพิ่มส่วนเบี่ยงเบนอาจเป็นประโยชน์สำหรับนักเทรดระยะยาว ขณะที่นักเทรดระยะสั้นอาจลดลงเพื่อโอกาสในการรับสัญญาณเพิ่มขึ้นจากตัวชี้วัด

การตั้งค่าตัวชี้วัด STARC บนแพลตฟอร์ม IQ Option

วิธีการอ่านค่าตัวชี้วัด

ตัวชี้วัดทั้ง 2 สร้างระดับ Overbought และ Oversold สำหรับสินทรัพย์ และทั้ง 2 จะแสดงช่วงความผันผวน นักเทรดอาจพบว่าตัวชี้วัดแสดงสัญญาณขายเมื่อแท่งเทียนเข้าใกล้แบนด์ด้านบน และย้อนกลับลงด้านล่าง ซึ่งอาจหมายความว่าสินทรัพย์ถึงระดับ Overbought

ตัวชี้วัด STARC กำลังแสดงสัญญาณขาย

ได้รับสัญญาณซื้อเมื่อกราฟแตะหรือทะลุผ่านแบนด์ด้านล่างและย้อนกลับขึ้นข้างบน

Bollinger Bands มอบสัญญาณซื้อ

ตัวชี้วัดทั้ง 2 อาจเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการค้นหาจุดเข้าเทรดและจุดย้อนกลับ แต่ทำงานได้ดีที่สุดเมื่อผสานรวมเข้ากับตัวชี้วัดอื่นเพื่อช่วยยืนยันสัญญาณที่ได้รับ นักเทรดอาจผสาน STARC และ Bollinger Bands กับตัวชี้วัดโมเมนตัม เช่น RSI หรือ Stochastic อาจเป็นประโยชน์ในการนำ Stop Loss หรือ Trailing Stop Loss ไปใช้กับกลยุทธ์ เพราะตัวชี้วัดทั้งหมดอาจให้สัญญาณที่ไม่ถูกต้องเป็นบางครั้ง

โปรดทราบว่าไม่มีตัวชี้วัดใดรับประกันความสำเร็จ 100% ดังนั้นกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่ดีคือสิ่งจำเป็นทุกครั้ง

คุณเคยใช้ตัวชี้วัดเหล่านี้มาก่อนหรือไม่? คุณชอบตัวชี้วัดไหน? ส่งความคิดเห็นเพื่อบอกให้เรารู้ และหากคุณยังไม่ได้ทดลองใช้งาน คุณสามารถทดสอบในบัญชีทดลอง!

สิ่งถัดไปที่คุณควรเรียนรู้? หมุนวงล้อเพื่อค้นหา!

rainbow circle

พื้นฐานหรือทางเทคนิค? ทั้งสองอย่าง!

แบ่งปัน

บทความก่อนหน้า

ภาพรวมตลาด – สินทรัพย์ที่ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดและราคาลดลงสูงสุดในปี 2024
Best assets of 2024
ภาพรวมตลาด – สินทรัพย์ที่ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดและราคาลดลงสูงสุดในปี 2024

บทความถัดไป

คำคมของนักเทรดมืออาชีพที่คุณต้องรู้
คำคมของนักเทรดมืออาชีพที่คุณต้องรู้

โพสต์ล่าสุด

ภาพรวมตลาด – สินทรัพย์ที่ราคาเพิ่มขึ้นสูงสุดและราคาลดลงสูงสุดในปี 2024

17.12.2024

Best assets of 2024

3 กลยุทธ์ที่มีผลกระทบสูงกับการเทรดไบนารีออปชัน

06.12.2024

Best Binary Options Strategies

วิธีขายชอร์ตคริปโต เพื่อทำกำไรในตลาดหมี

25.11.2024

Short selling on the crypto market.

การเทรดช่วงเทศกาลวันหยุด – สิ่งที่ต้องรู้

21.11.2024

Trading on Black Friday and holidays

เหตุใดการพัฒนาจิตวิทยาการเทรดของคุณจึงสำคัญ

20.11.2024

trading psychology

พลังสายรุ้งของค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพิ่มขึ้นทวีคูณ

18.11.2024