ในโลกที่ยิ่งใหญ่ของการเทรดไบนารีออปชัน ตัวชี้วัดที่ดีสามารถสร้างผลลัพธ์ที่แตกต่างได้ วันนี้จะพามาดูตัวชี้วัดที่ดีที่สุดทั้งหมดสำหรับไบนารีออปชันที่ทำงานได้ยอดเยี่ยมในกรอบเวลาสั้นๆ อ่านรายละเอียดแล้วเลือกเครื่องมือนักสู้ได้เลย!
1. ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average)
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดพื้นฐานที่ง่ายที่สุดสำหรับไบนารีออปชัน เครื่องมือนี้จะใช้กรองข้อมูลราคาให้เรียบขึ้นและช่วยหาทิศทางของแนวโน้ม นี่คือสัญญาณประเภทหลักๆ ที่มองหา
- หากราคาสูงกว่า MA แปลว่ากำลังเป็นแนวโน้มขาขึ้น
- หากราคาต่ำกว่า MA จะถือว่าเป็นแนวโน้มขาลง
สำหรับการเทรดไบนารีออปชัน นักเทรดมักใช้ MA ระยะสั้นที่มีช่วงเวลา 5 10 หรือ 25 แทนที่จะใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เพียงตัวเดียว ให้ลองผสาน MA สองตัวในกลยุทธ์ที่เรียกว่า Golden Cross / Death Cross
กลยุทธ์ Golden Cross / Death Cross
ใช้งาน SMA สองตัวที่มีช่วงเวลา 5 และ 15 แล้วดูที่จุดตัด สัญญาณที่เป็นไปได้ที่อาจเห็นบนกราฟราคาจะมีสองแบบ
Golden Cross
เมื่อ MA ระยะสั้นตัดเหนือ MA ระยะยาว แปลว่ากำลังเกิดสัญญาณขาขึ้น ให้พิจารณาเปิดเทรด Long
ตัวอย่างของ Golden Cross สำหรับกราฟราคาไบนารีออปชัน
Death Cross
เมื่อ MA ระยะสั้นตัดต่ำกว่า MA ระยะยาว แปลว่ากำลังเกิดสัญญาณขาลง ในจุดนี้อาจต้องเข้าสู่สถานะ Short
นี่คือ Deadly Cross ที่แสดงสัญญาณขาลงบนกราฟราคาไบนารีออปชัน
2. MACD
MACD หรือ Moving Average Convergence Divergence เหมือนเครื่องมืออเนกประสงค์ของตัวชี้วัดการเทรด ซึ่งจะช่วยประเมินแนวโน้ม โมเมนตัม รวมถึงไดเวอร์เจนซ์ เคล็ดลับการใช้ MACD เพื่อการวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับไบนารีออปชัน
1. ปรับการตั้งค่า – กำหนด MA ระยะสั้นเป็น 9 กำหนด MA ระยะยาวเป็น 20 และให้ค่าเส้นสัญญาณอยู่ที่ 3
2. อ่านสัญญาณ – ตัดสินใจว่าสัญญาณเป็นขาขึ้นหรือขาลงเพื่อลงมือเทรดอย่างถูกต้อง
- เซนติเมนต์ขาขึ้น – เส้น MACD (สีฟ้า) ตัดเหนือเส้นสัญญาณ (สีส้ม) หาแท่งเทียนเหนือจุดตัดที่อยู่ในทิศทางของเส้น MACD
- เซนติเมนต์ขาลง เส้น MACD ตัดลงด้านล่างเส้นสัญญาณ ให้มองหาแท่งเทียนเหนือจุดตัด
นี่คือตัวอย่างสัญญาณขาขึ้นของ Binary Options จากตัวบ่งชี้ MACD
3. ตัวชี้วัด Vortex
ตัวชี้วัด Vortex อาจเป็นตัวชี้วัดที่แม่นยำมากที่สุดสำหรับไบนารีออปชัน จุดสำคัญคือเส้นจุดตัดสีฟ้าและสีแดง ซึ่งจะส่งสัญญาณว่าเมื่อไรควรเลือกสูงกว่าหรือต่ำลง
วิธีการใช้งาน
- นำตัวชี้วัด Vortex ไปใช้งานพร้อมการตั้งค่าเริ่มต้น
- เมื่อเส้นสีฟ้าตัดเหนือเส้นสีแดง ให้กดสูงกว่า (Higher)
- เมื่อเส้นสีฟ้าตัดลงด้านล่างเส้นสีแดง ให้กดต่ำลง (Lower)
4. Stochastic Oscillator
Stochastic Oscillator จะวัดโมเมนตัมและเป็นเหมือนเรดาห์ที่คอยดูว่าตลาดกำลังร้อนแรงเกินไปหรือเย็นเกินไป นี่คือเส้นสองเส้น (%K และ %D) ที่เคลื่อนที่ระหว่าง 0 และ 100 เมื่ออ่านค่าได้สูงกว่า 80 เป็นการบ่งบอกว่ากำลังอยู่ในสภาวะ “ซื้อมากเกินไป (Overbought)” หากค่าที่อ่านได้ต่ำกว่า 20 จะชี้ให้เห็นว่ากำลังอยู่ในสถานะ “ขายมากเกินไป (Oversold)” ซึ่งถือว่า Stochastic เป็นตัวชี้วัดที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดไบนารีออปชัน
นี่คือลักษณะการทำงาน
- สัญญาณซื้อ – เมื่อเส้น %K (สีฟ้า) ตัดเหนือเส้น %D (สีแดง) ต่ำกว่าระดับ 20
- สัญญาณขาย – เมื่อเส้น %K ตัดลงด้านล่างเส้น %D สูงกว่าระดับ 80
5. Commodity Channel Index (CCI)
Commodity Channel Index จะเปรียบเทียบราคาปัจจุบันกับค่าเฉลี่ยย้อนหลังเพื่อช่วยให้เข้าใจความแข็งแกร่งและทิศทางของแนวโน้ม ถือเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดทางเทคนิคที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับการเทรดไบนารีออปชัน
นี่คือลักษณะการทำงาน
- แนวโน้มขาขึ้น – หากเส้น CCI เคลื่อนที่จาก 0 เข้าใกล้ 100 หมายความว่ากำลังชี้ให้เห็นขาขึ้น
- แนวโน้มขาลง – หากเส้น CCI ลดลงจาก 0 เข้าใกล้ -100 หมายความว่ากำลังชี้ให้เห็นขาลง
การดำเนินการ – หลังจากทะลุกรอบ รอให้มีแท่งเทียน 3-4 อันในทิศทางของแนวโน้มเพื่อยืนยันแนวโน้มก่อนลงมือเทรด
สรุป
หากต้องการปรับปรุงความแม่นยำของการเทรดระยะสั้น ให้ลองใช้ 5 ตัวชี้วัดที่ดีที่สุดเหล่านี้สำหรับการเทรดไบนารีออปชัน Moving Average จะช่วยค้นหาแนวโน้ม MACD จะชี้ให้เห็นข้อมูลแนวโน้มโดยรวม Vortex จะค้นหาจุดเข้าเทรดที่ชัดเจน Stochastic Oscillator จะวัดโมเมนตัม และ CCI จะประเมินความแข็งแกร่งของแนวโน้ม
ฝึกใช้เครื่องมือเหล่านี้อย่างชำนาญเพื่อตัดสินใจอย่างมีเหตุผลมากขึ้นและเพิ่มโอกาสที่การเทรดจะทำกำไรได้