ตกอยู่ในวังวนของการผัดวันประกันพรุ่งและความวิตกกังวลใช่หรือไม่? ตื่นตระหนกเพราะดูเหมือนกลยุทธ์ที่ใช้มีช่องโหว่อยู่ทุกที่จนทำให้เสียกำไรใช่ไหม? เรามีเคล็ดลับที่ได้รับการพิสูจน์แล้วจากหลักการประสาทวิทยาศาสตร์การรู้คิดเพื่อช่วยคุณปรับปรุงกลยุทธ์เทรดสู่ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
1. ฝึกฝนทักษะ จดทุกอย่าง
การเขียนสิ่งที่ต้องทำและจัดสรรช่วงเวลาที่ต้องใช้เป็นกระบวนการที่เรียกว่าหน่วยเก็บความจำภายนอก นั่นคือ การโอนถ่ายภาระการรับรู้จากสมองสู่สิ่งแวดล้อมภายนอก ซึ่งจะช่วยลดความยุ่งเหยิงในจิตใจและเพิ่มทรัพยากรด้านการรับรู้สำหรับงานที่มีความซับซ้อนมากขึ้น
นอกจากนั้น การแจกแจงกิจกรรมเทรดเป็นขั้นตอนที่สามารถลงมือทำได้จะทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่าการจัดเก็บความทรงจำเป็นกลุ่มก้อน (Chunking) ในจิตวิทยาการรู้คิด (Cognitive Psychology) การจัดเก็บความทรงจำเป็นกลุ่มก้อนเกี่ยวกับการจัดกลุ่มข้อมูลเป็นหน่วยที่สามารถจัดการได้ ทำให้สามารถประมวลผลและเก็บรักษาได้ง่ายขึ้น
สุดท้ายการขีดภารกิจที่ทำสำเร็จออกจะช่วยมอบความรู้สึกถึงความสำเร็จ (Sense of Accomplishment) กระตุ้นให้เกิดการปล่อยสารโดปามีน ซึ่งเป็นสารเคมีสื่อประสาทที่เกี่ยวข้องกับแรงจูงใจและผลตอบแทน
2. มีสมาธิ
ลองนึกภาพถึงซอฟต์แวร์ “ซูเปอร์นักเทรด” ซึ่งเป็นโปรแกรมที่มีอัตราความสำเร็จสูงมาก คุณเริ่มต้นดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ แต่สลับไปที่แท็บอื่นตอนที่โหลดไปแค่ 5% นี่คือการเปรียบเทียบถึงสมองที่ขาดสมาธิ
การมุ่งความสนใจอย่างลึกซึ้งไปที่งานเดียวต้องใช้เครือข่ายสมองระดับสูงที่มีหน้าที่รับผิดชอบการแก้ปัญหา การตัดสินใจ และความคิดสร้างสรรค์ สมาธิเป็นสิ่งที่ทำให้สามารถเข้าสู่สภาวะทำงานอย่างไหลลื่น (Flow State) นำไปสู่การบรรลุประสิทธิภาพสูงสุดและผลผลิตที่แทบไม่ต้องใช้ความพยายาม
อย่างไรก็ตาม การบริโภคเนื้อหาอย่างรวดเร็วเป็นเรื่องท้าทายสมาธิช่วงความสนใจ (Attention Span) นำไปสู่อาการที่คล้ายโรคสมาธิสั้น (ADHD) ดังนั้นการเพ่งสมาธิจึงรู้สึกเหมือนได้ปลดล็อกพลังพิเศษให้กับสมอง
เทคนิค Pomodoro จะเสริมพลังให้กับสมาธิ เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดเครื่องมือที่สามารถช่วยปรับปรุงกลยุทธ์เทรดให้ดีขึ้น นี่คือหลักการทำงาน
☝️
ทำงานอย่างมุ่งมั่น 25 นาที แล้วตามด้วยการพักเบรกสั้นๆ (ประมาณ 5 นาที) การทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ จะเป็นการใช้ประโยชน์จากจังหวะธรรมชาติของสมองเพื่อเพิ่มระดับสมาธิและพลังงานทางจิตใจให้สูงสุด นอกจากเทคนิคนี้จะป้องกันการเบื่อหน่ายและความเหนื่อยล้าทางจิตใจแล้ว ยังสามารถฝึกสมองให้มีสมาธิจดจ่อเป็นเวลานานได้ด้วย
หลายคนอาจมีความฝันหลายอย่าง แต่ถ้าอยากทำความฝันให้เป็นจริงก็ต้องตั้งอยู่บนหลักความจริงด้วย คิดเกี่ยวกับเรื่องเงินลงทุน กลยุทธ์ และกำหนดเป้าหมายที่สามารถทำให้สำเร็จได้ ในไม่ช้าก็จะไปถึงเป้าหมาย เพียงแต่ต้องค่อยเป็นค่อยไป แนวทางที่ตั้งอยู่บนหลักความเป็นจริงจะขจัดความกดดัน และทำให้สามารถตัดสินใจได้ดีขึ้น
3. กำหนดเป้าหมายที่เป็นจริงได้
เรื่องราวความสำเร็จทั้งหมดเกี่ยวกับการฝันให้ไกลไปให้ถึง แต่แนะนำให้กำหนดเป้าหมายตามหลัก SMART (Specific (เจาะจง) Measurable (วัดผลได้) Achievable (ทำได้จริง) Relevant (มีความสอดคล้อง) และ Time-bound (มีกรอบเวลาชัดเจน))
การวิจัยทางจิตวิทยาแสดงให้เห็นว่าการตั้งเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงเพื่อส่งเสริมแรงจูงใจนั้นมีความสำคัญเพียงใด เมื่อมีวัตถุประสงค์ชัดเจนและสามารถบรรลุผลได้ สมองจะหลั่งสารโดปามีนที่ช่วยกระตุ้นความมุ่งมั่นให้บรรลุเป้าหมาย
ดังนั้นแทนที่จะฝันให้ไกลว่า “อยากเป็นนักเทรดที่ร่ำรวย” ให้คิดแบบ SMART แทน ตัวอย่างเช่น
“อยากได้ผลตอบแทนจากการลงทุน 10% ภายใน 6 เดือนด้วยการเทรดหุ้นเทคโนโลยี โดยวางแผนว่าจะทำดังนี้…”
4. ทำลายความกลัวด้วยเหตุผล
เมื่อตลาดไม่เป็นไปตามที่คิด อารมณ์ที่เกี่ยวข้องจะทำให้สมองส่วนอะมิกดาลาทำงาน ซึ่งเป็นศูนย์กลางของสมองที่ประมวลผลเกี่ยวกับการเตือนภัย สิ่งนี้จะทำให้เกิดการตอบสนองแบบจะสู้หรือหนี นำไปสู่การตัดสินใจอย่างไม่มีเหตุผลและผิดพลาด เมื่อมีอารมณ์มาควบคุมการกระทำ การมีสมาธิเพื่อปรับปรุงกลยุทธ์เทรดยิ่งทำได้ยาก
การวิจัยด้านประสาทวิทยาเศรษฐศาสตร์แสดงให้เห็นว่าบุคคลที่ควบคุมอารมณ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพจะมีทักษะในการตัดสินใจและการบริหารความเสี่ยงได้ดีกว่า สามารถปรับปรุงอารมณ์ได้โดยทำสิ่งต่อไปนี้
- มีแผนการเทรดที่ดี
- กลยุทธ์จัดการความเสี่ยงที่กำหนดไว้ล่วงหน้า
- เทคนิคการเจริญสติเพื่อให้มีสมาธิจดจ่อและการบำบัดทางความคิด
- ทบทวนและปรับเปลี่ยนแผนการเทรดอยู่เป็นประจำตามสภาวะตลาดและผลลัพธ์ที่ได้
- กระจายการลงทุน
- โฟกัสไปที่ภาพรวมและผลลัพธ์ระยะยาว
สรุป
การทำความเข้าใจด้านประสาทวิทยาศาสตร์ที่อยู่เบื้องหลังกิจกรรมการเทรดจะช่วยให้นักเทรดสามารถจัดการอารมณ์ กระตุ้นพลังสมอง และลงมือเทรดอย่างชาญฉลาด นำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ ก้าวต่อไป และดูผลลัพธ์การเทรดพุ่งทะยาน!