ถึงแม้ตัวชี้วัดทางเทคนิคจะเป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการวิเคราะห์ตลาด แต่ตัวชี้วัดทางเทคนิคไม่ใช่เครื่องมือเดียวที่มีอยู่ เครื่องมือกราฟิก เช่น เส้นแนวโน้มและเส้น Fibonacci สามารถช่วยหาทิศทางของแนวโน้มและการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้นได้ บทความนี้จะอธิบายพื้นฐานของการใช้เส้นแนวโน้มในการเทรด และวิธีใช้เครื่องมือเหล่านี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเทรด
เส้นแนวโน้มในการเทรดคืออะไร?
เส้นแนวโน้มเป็นเครื่องมือพื้นฐานของการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ไม่ซับซ้อน ปกติแล้วเส้นแนวโน้มจะเชื่อมต่อชุดของจุดล่าสุดบนกราฟราคา (ไม่ว่าจะจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุด) นักเทรดจะวาดเส้นแนวโน้มบนกราฟราคาเพื่อทำความเข้าใจกับทิศทางของแนวโน้มและหารูปแบบการเคลื่อนไหวของราคา
นี่คือตัวอย่างเส้นแนวโน้มบนกราฟราคาฟอเร็กซ์ในเทรด IQ Option ซึ่งมีการเชื่อมต่อจุดต่ำสุดสามจุดล่าสุด สร้างเส้นที่ชี้ให้เห็นแนวโน้มขาขึ้น
สามารถนำเส้นแนวโน้มมาใช้เทรดได้อย่างไร?
การใช้เส้นแนวโน้มในการเทรดทำได้สองวิธีหลักๆ
1. ประเมินทิศทางแนวโน้ม
แนวทางแรกคือวาดเส้นแนวโน้มเส้นเดียวเพื่อทำความเข้าใจทิศทางของแนวโน้มดังภาพด้านบน ซึ่งสามารถชี้ให้เห็นทั้งแนวโน้มขาขึ้นและขาลง นักเทรดบางรายอาจใช้เส้นแนวโน้มร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น รูปแบบแท่งเทียนหรือตัวชี้วัด
2. หาระดับแนวรับและแนวต้าน
แนวทางที่สองคือวาดเส้นแนวโน้มหลายเส้นเพื่อหาระดับแนวรับและแนวต้าน โดยทั่วไปแนวรับและแนวต้านจะเป็นขีดจำกัดเสมือนที่เส้นราคาไม่สามารถข้ามได้ การกำหนดระดับเหล่านี้บนกราฟราคาอาจมีประโยชน์ในการหาจุดราคาทะลุกรอบและการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น
ราคาทะลุกรอบอาจเกิดขึ้นเมื่อราคาขยับเกินระดับแนวรับหรือแนวต้านที่เกิดจากความผันผวนล่าสุด สิ่งนี้บ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้มที่เป็นไปได้ หากราคายังอยู่ในทิศทางของการทะลุกรอบ ดังภาพด้านล่าง
ในกรณีตรงกันข้าม ราคาจะเด้งกลับและขยับต่อตามทิศทางทั่วไปของแนวโน้มหลัก ไม่ว่าในกรณีใดก็ตาม นักเทรดอาจพิจารณาได้ว่าราคาทะลุกรอบเป็นโอกาสในการเข้าเทรด ดังนั้นการใช้เส้นแนวโน้มเป็นแนวรับหรือแนวต้านอาจช่วยหาราคาทะลุกรอบและตัดสินใจเทรดพร้อมข้อมูลสนับสนุน หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแนวรับและแนวต้าน ให้ดูบทความการใช้แนวรับและแนวต้านในการเทรด
วิธีวาดเส้นแนวโน้ม
หากต้องการวาดเส้นแนวโน้มบนกราฟราคาที่แพลตฟอร์ม IQ Option ให้ไปที่ส่วน “เครื่องมือกราฟิก” ของเมนูที่เหนือแท็บ “ตัวชี้วัด”
จากนั้นเลือกจุดสูงสุดหรือจุดต่ำล่าสุดหลายๆ จุดบนกราฟที่ต้องการเชื่อมต่อ แนะนำให้ใช้อย่างน้อยสองจุดบนกราฟเพื่อหาแนวโน้ม นอกจากนี้ การเชื่อมโยงมากกว่าสองจุดบนเส้นแนวโน้มจะช่วยเพิ่มความน่าจะเป็นในการหาแนวโน้มที่แข็งแกร่ง
กรณีใช้กราฟแท่งเทียน นักเทรดอาจเลือกจุดราคาต่ำสุดหรือราคาสูงสุดที่ชี้ให้เห็นโดยเงาด้านบนหรือด้านล่างของแท่งเทียนเพื่อวาดเส้นแนวโน้ม
หรือเลือกจุดราคาเปิดหรือจุดราคาปิด และไม่สนใจราคาทะลุกรอบเล็กๆ น้อยๆ ที่แสดงโดยเงา ไม่ว่าจะเลือกอะไรก็ตาม จำไว้ว่าเส้นแนวโน้มเป็นเพียงหนึ่งในเครื่องมือวิเคราะห์สินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลลัพธ์แม่นยำ 100% ตลอดเวลา
นอกจากนี้ ตัวบ่งชี้ของเส้นแนวโน้มอาจขึ้นอยู่กับกรอบเวลาที่เลือก เมื่อใช้กรอบเวลาที่สั้นลง (หนึ่งชั่วโมงหรือหนึ่งวัน) อาจทำให้ได้รับตัวบ่งชี้หลอกเนื่องจากกราฟมีความอ่อนไหวต่อการเปลี่ยนแปลงราคาเล็กน้อย
การใช้ Fibonacci Retracement พร้อมเส้นแนวโน้มในการเทรด
นักเทรดสามารถใช้เส้นแนวโน้มร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคพื้นฐานอีกตัวที่เรียกว่าเส้น Fibonacci เครื่องมือนี้มักใช้หาการกลับตัว การเคลื่อนไหวของราคาระยะสั้นที่สวนทางกับแนวโน้มทั่วไป
ปกติกแล้ว Fibonacci Retracement จะช่วยหาระดับแนวรับและแนวต้านสำหรับสินทรัพย์ที่เลือก และบ่งบอกถึงจุดกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น นักเทรดหลายคนชอบใช้ Fibonacci Retracement พร้อมเส้นแนวโน้มเพื่อยืนยันการอ่านกราฟและตัดสินใจโดยพร้อมข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้น หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Fibonacci Retracement ให้อ่านบทความการใช้เส้น Fibonacci ในการเทรด
สรุป
เส้นแนวโน้มเป็นเครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิคพื้นฐานที่สามารถใช้กับสินทรัพย์ต่างๆ ในกรอบเวลาที่แตกต่างกัน ซึ่งจะช่วยหาทิศทางของแนวโน้มและวาดระดับแนวรับกับระดับแนวต้าน เพื่อหาจุดเข้าออกที่อาจเกิดขึ้น นักเทรดสามารถใช้เส้นแนวโน้มร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ เพื่อยืนยันการตัดสินใจและอ่านกราฟได้แม่นยำยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องจำไว้คือ เส้นแนวโน้มไม่สามารถให้ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงราคาในอนาคตที่ถูกต้อง 100%