เคยเจอแบบนี้หรือไม่? หุ้นกำลังเป็นแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน แล้วอยู่ๆ ราคาก็เริ่มไซด์เวย์ หรือเทรนด์กำลังเป็นแนวโน้มขาลงที่ดูเหมือนจะหยุดแต่กลับดิ่งลงไปอีก
สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่ข้อมูลรบกวนของตลาดแบบสุ่ม แต่เป็นรูปแบบเทรนด์ต่อเนื่อง (Trend Continuation) หากเข้าใจวิธีนำรูปแบบต่อเนื่องไปใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิคก็จะสามารถเปลี่ยนการหยุดชะงักเหล่านี้ให้กลายเป็นโอกาสทำกำไรได้
ลักษณะของรูปแบบเทรนด์ต่อเนื่อง (Trend Continuation)
รูปแบบเทรนด์ต่อเนื่อง (Trend Continuation) เป็นการหยุดพักของเทรนด์ก่อนที่ราคาจะเคลื่อนไหวต่อไปในทิศทางเดิม
รูปแบบเทรนด์ต่อเนื่องเกิดขึ้นจากจิตวิทยานักลงทุน เพราะเทรดเดอร์มีการทำกำไร กำลังลังเล หรือรอข้อมูลใหม่ แต่โมเมนตัมพื้นฐานจะไม่เปลี่ยนแปลง นั่นคือลักษณะของรูปแบบต่อเนื่องในตลาด
วิธีมองหารูปแบบต่อเนื่อง
จับตาดูสิ่งเหล่านี้
✔ แนวโน้มแข็งแกร่งก่อนที่รูปแบบจะเกิดขึ้น (ขึ้นหรือลงไม่สำคัญ แค่ต้องแน่ใจว่ามีโมเมนตัมจริง)
✔ ช่วงที่ราคาแกว่งตัวอยู่ในกรอบ เมื่อราคาเคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์จะทำให้เกิดรูปแบบที่ชัดเจน
✔ ราคาทะลุกรอบในทิศทางเดียวกับแนวโน้มเดิม เป็นการยืนยันว่าเกิดรูปแบบต่อเนื่องที่แท้จริง และไม่ใช่กับดักของจุดกลับตัว
ประเภทของรูปแบบเทรนด์ต่อเนื่อง (และวิธีนำไปใช้เทรด)
1. ธง (Flag) – ตลาดหยุดพักช่วงสั้นๆ
ลองนึกถึงราคาหุ้นที่กำลังวิ่งอย่างรวดเร็วจากนั้นชะลอลงอย่างกะทันหัน และเคลื่อนไหวอยู่ในช่องแคบๆ นั่นคือรูปแบบธงตอนที่ตลาดกำลังพักหายใจ
วิธีการค้นหา
- bbมองหาความเคลื่อนไหวของราคาที่รุนแรง (เสาธง)
- ราคาเคลื่อนไหวแบบไซด์เวย์เป็นขาลงหรือขาขึ้นเล็กน้อย
- ราคาทะลุกรอบจะเป็นการยืนยันรูปแบบ
เคล็ดลับมือโปร – ในรูปแบบแนวโน้มขาขึ้นต่อเนื่อง ธงจะเอียงลงเล็กน้อยก่อนที่จะเริ่มสูงขึ้น ส่วนธงขาลงจะเอียงขึ้นก่อนที่ลดลงมา
การดำเนินการ – เข้าเทรดเมื่อราคาทะลุตามทิศทางของแนวโน้ม ตั้งระดับ Stop Loss ไว้ต่ำกว่า/เหนือรูปแบบธง และเดินหน้าตามการเคลื่อนไหว
2. ธงปลายแหลม (Pennant) – เหมือนกับรูปแบบธงแต่แหลมกว่า
ธงปลายแหลมมีลักษณะเหมือนสามเหลี่ยมขนาดเล็กที่ก่อตัวขึ้นหลังจากการเคลื่อนไหวที่รุนแรง ต่างจากรูปแบบธงตรงที่ไม่ได้เอียงขึ้นหรือเอียงลง แต่จะก่อตัวเป็นหน้าจั่วที่สมมาตรก่อนที่จะทะลุกรอบ
วิธีการค้นหา
- ธงปลายแหลมขาขึ้น (Bullish Pennant) = หลังจากราคามีแนวโน้มขาขึ้น ราคาจะก่อตัวเป็นสามเหลี่ยมก่อนที่จะทะลุสูงขึ้น
- ธงปลายแหลมขาลง (Bearish Pennant) = มีลักษณะเหมือนกันแต่เป็นแนวโน้มขาลง
การดำเนินการ – เข้าเทรดหากปริมาณเพิ่มขึ้นเมื่อราคาทะลุกรอบ ซึ่งเป็นการยืนยันที่มั่นใจได้ หากปริมาณไม่แข็งแกร่งพอ ให้รอดูการยืนยันเพิ่มเติม
3. สี่เหลี่ยมผืนผ้า (Rectangle) – ราคาไซด์เวย์
ในรูปแบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า ราคาจะเด้งระหว่างสองระดับในแนวนอน นั่นคือ ระดับแนวรับและระดับแนวต้าน ซึ่งจะเป็นแบบนี้จนกว่าจะเคลื่อนไหวไปในทางใดทางหนึ่ง
วิธีการค้นหา
- หากราคาทะลุเหนือแนวต้านจะหมายถึงรูปแบบต่อเนื่องขาขึ้น
- หากทะลุต่ำกว่าแนวรับจะหมายถึงรูปแบบต่อเนื่องขาลง
การดำเนินการ – เข้าเทรดเมื่อราคาทะลุออกมา แต่ต้องดูปริมาณด้วย
4. หน้าจั่ว (Wedge) – ธงสามเหลี่ยมพร้อมข้อวินิจฉัย
หน้าจั่วจะเกิดขึ้นเมื่อราคาเคลื่อนไหวในช่วงแคบๆ ไม่ว่าจะลาดเอียงขึ้นหรือลาดเอียงลง ลักษณะคล้ายธงสามเหลี่ยม แต่ความแตกต่างที่สำคัญอยู่ที่ธงสามเหลี่ยมจะเป็นไซด์เวย์ในแนวนอน ส่วนหน้าจั่วเป็นได้ทั้งหน้าจั่วขาขึ้นและหน้าจั่วขาลง
วิธีการค้นหา
- หน้าจั่วขาขึ้น (Rising Wedge) เกิดขึ้นในแนวโน้มขาลง และมักจะทะลุต่ำลง (ขาลง)
- หน้าจั่วขาลง (Falling Wedge) เกิดขึ้นในแนวโน้มขาขึ้น และมักจะทะลุสูงขึ้น (ขาขึ้น)
เคล็ดลับมือโปร – หน้าจั่วอาจสร้างความสับสนได้ ให้มองหาปริมาณที่กำลังลดลงตอนที่หน้าจั่วกำลังเกิดขึ้น หากปริมาณพุ่งสูงขึ้นเมื่อเกิดการทะลุกรอบ นั่นแปลว่าไฟเขียว และให้ตั้ง Stop Loss ไว้นอกรูปแบบหน้าจั่วเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกหลอก
5. ถ้วยและที่จับ (Cup and Handle) – ช่วงพักจิบกาแฟของแนวโน้ม
รูปแบบนี้หน้าตาเหมือนถ้วย โดยที่ราคาจะก่อตัวเป็นฐานกลมๆ จากนั้นย่อตัวลงเล็กน้อย (ที่จับ) ก่อนที่จะทะลุกรอบสูงขึ้นไป
💡 เคล็ดลับมือโปร – Cup and Handle ใช้ได้กับรูปแบบต่อเนื่องขาขึ้นเท่านั้น หากเห็นว่าเป็นแนวโน้มขาลง นั่นไม่ใช่ถ้วย
การดำเนินการ – เข้าซื้อเมื่อราคาทะลุเหนือที่จับ และตั้ง Stop Loss ไว้ต่ำกว่าจุดต่ำสุดของที่จับ
วิธีนำรูปแบบต่อเนื่องมาใช้กับการวิเคราะห์ทางเทคนิค
หลังจากที่ทำความเข้าใจลักษณะที่เกิดขึ้นแล้ว ต่อไปจะมาพูดถึงการนำไปใช้งานจริง
- ยืนยันแนวโน้มก่อน – รูปแบบเหล่านี้ได้ผลเฉพาะในกรณีที่มีแนวโน้มชัดเจนก่อนเกิดการก่อตัว หากราคาผันผวนขึ้นลงรุนแรงสลับกัน (Choppy) นั่นไม่ใช่รูปแบบต่อเนื่อง แต่เป็นลักษณะเหวี่ยงขึ้นลง
- รอทะลุกรอบ – เพียงแค่เห็นว่ารูปแบบกำลังเกิดขึ้น ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างพร้อมแล้ว การทะลุกรอบหลอกสามารถเกิดขึ้นได้ ดังนั้นจึงต้องรอการยืนยันที่แน่นอน
- ปริมาณเป็นเหมือนเพื่อนแท้ – ราคาทะลุกรอบที่มีปริมาณการซื้อขายต่ำ = การเคลื่อนไหวที่ไม่แข็งแกร่งพออาจล้มเหลว หากกำลังเทรดราคาทะลุกรอบ ต้องตรวจสอบว่าปริมาณมีความสอดคล้อง ซึ่งสามารถเพิ่มวิดเจ็ตปริมาณลงในกราฟได้จากแท็บตัวชี้วัด
- ตั้ง Stop Loss – แค่เห็นรูปแบบต่อเนื่องไม่ได้หมายความว่าจะสำเร็จเสมอไป ให้ตั้ง Stop Loss ไว้นอกรูปแบบเสมอเพื่อปกป้องตัวเอง
สรุปเกี่ยวกับการเทรดด้วยรูปแบบเทรนด์ต่อเนื่อง (Trend Continuation)
การจดจำลักษณะที่เกิดขึ้นของรูปแบบเทรนด์ต่อเนื่อง (Trend Continuation) จะช่วยให้มองเห็นโอกาสทำกำไรได้มากขึ้น รูปแบบเหล่านี้ไม่ได้คาดการณ์อนาคต แต่ช่วยชี้ให้เห็นความเคลื่อนไหวที่สำคัญก่อนจะเกิดขึ้นจริง
เรียนรู้ให้เชี่ยวชาญเพื่อหารูปแบบต่อเนื่องอย่างมืออาชีพ!