วิธีการเทรดราคาทะลุกรอบ: วิธีการทำงาน

การเทรดราคาทะลุกรอบได้รับความนิยมมาก แต่มันยากกว่าที่เห็น วิธีนี้จะค้นหาพื้นที่ราคาที่สินทรัพย์ไม่สามารถเคลื่อนที่เกินและรอให้ทะลุผ่านระดับเหล่านี้ได้ ดังนั้นชื่อของแนวทางคือ – ราคาทะลุกรอบ

ราคาทะลุกรอบอาจบ่งบอกถึงทิศทางที่ราคาอาจจะมุ่งหน้าต่อไป แต่ในการอ่านสัญญาณ นักเทรดจำเป็นต้องมีทักษะในการวิเคราะห์ ฝึกฝน และเข้าใจดีว่าตลาดทำงานอย่างไร นักเทรดมักใช้การวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือรูปแบบกราฟเพื่อระบุจุดที่อาจเกิดราคาทะลุกรอบ มาดูกันที่วิธีการเทรดนี้

วิธีการทำงานของการเทรดราคาทะลุกรอบ

ในการเทรดราคาทะลุกรอบ นักเทรดมักมองหาแนวรับและแนวต้านบนบนกราฟราคา นี่เป็นเกณฑ์มาตรฐานที่สำคัญซึ่งราคาอาจถอยกลับหรือทะลุผ่านได้

ระดับมีความสำคัญมากเพราะพวกมันทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มกระโดด: หากราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านได้ในที่สุด นี่อาจถือเป็นสัญญาณว่าราคาอาจเคลื่อนที่ต่อไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้เกิดโอกาสที่เป็นไปได้

ราคาทะลุกรอบอาจบ่งบอกถึงโอกาสในการซื้อหรือขาย ขึ้นอยู่กับทิศทางของราคาทะลุกรอบ ในตัวอย่างด้านล่าง กราฟฟอเร็กซ์ของ EUR/USD ทะลุแนวต้านลง สิ้นสุดการควบรวมระยะยาวหนึ่งสัปดาห์ด้วยแนวโน้มขาลง

เมื่อราคาทะลุผ่านระดับแนวรับขาลงและยังคงความเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกันต่อไป อาจตีความได้ว่าเป็นสัญญาณ “ขาย” ในเวลาเดียวกัน หากราคาทะลุแนวต้านขึ้นไปและยังคงขยับขึ้น อาจเป็นสัญญาณ “ซื้อ” อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญคือต้องทราบว่าไม่มีการรับประกันความถูกต้องของผลลัพธ์ 100%

สิ่งสำคัญคือต้องสังเกตว่านักเทรดหลายรายที่ใช้แนวทางนี้ มักจะไม่เข้าสู่ตลาดทันทีหลังจากราคาทะลุกรอบ แต่ควรรอให้เกิดช่วงการพักตัว ซึ่งอาจช่วยป้องกันการได้รับสัญญาณปลอมที่เรียกว่า “fakeout” โดยที่ราคาจะกลับสู่ระดับก่อนหน้านี้หลังจากราคาทะลุกรอบ หรือแม้กระทั่งเริ่มเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้าม

3 วิธีในการยืนยันราคาทะลุกรอบ

การใช้งานรูปแบบกราฟ

รูปแบบกราฟมักถูกใช้เพื่อตรวจหาราคาทะลุกรอบที่เป็นไปได้ รูปร่างดังกล่าว เช่น สามเหลี่ยม, สี่เหลี่ยมผืนผ้า, ธง (Flag), หัวและไหล่ (Head and Shoulder) หรือหน้าจั่ว (Wedge) สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งหมดเมื่อราคาเคลื่อนที่ไปในทิศทางหนึ่ง นักเทรดกำหนดแนวรับและแนวต้านบนและเมื่อราคาทะลุผ่านรูปแบบแท่งเทียน ราคาทะลุกรอบจะได้รับการยืนยัน

การใช้งานตัวชี้วัดทางเทคนิค

ตัวชี้วัดทางเทคนิคสามารถใช้เพื่อยืนยันราคาทะลุกรอบได้ เครื่องมือยอดนิยมบางส่วนคือ MACD, Bollinger Bands และ RSI ตัวชี้วัดปริมาณอาจถือว่าเป็นประโยชน์เช่นกัน เพราะราคาทะลุกรอบมักนำหน้าด้วยระยะเวลาที่มีปริมาณน้อย หลังจากราคาทะลุกรอบ มักมีปริมาณจำนวนมากเมื่อตลาดเข้าสู่ช่วงตื่นตัวใหม่ การใช้ตัวชี้วัดหลายตัวที่ช่วยเสริมซึ่งกันและกันอาจช่วยให้รับสัญญาณได้แม่นยำยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ไม่มีตัวชี้วัดตัวใดที่สามารถรับประกันผลลัพธ์ที่ถูกต้องได้ 100% ทุกครั้ง

การใช้งานพื้นฐาน

ตัวอย่างของข้อมูลพื้นฐานที่สามารถใช้เพื่อระบุราคาทะลุกรอบอาจเป็นรายงานรายได้ของบริษัท เมื่อบริษัททำผลงานได้ดีเหนือกว่าที่คาดไว้ (หรือต่ำกว่ามาก) ราคาอาจพุ่งขึ้นหรือลง ขึ้นอยู่กับข่าว การจับช่วงเวลาที่ถูกต้องเป็นส่วนที่ยากที่สุดของแนวทางนี้ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีแผนการจัดการความเสี่ยงที่เตรียมไว้อย่างดีเพื่อให้สอดคล้องกับแผนดังกล่าว

การเทรดราคาทะลุกรอบและการจัดการเงิน

มีกฎการจัดการความเสี่ยงสำคัญหลายข้อที่ต้องปฏิบัติไปพร้อมกับแนวทางราคาทะลุกรอบ นักเทรดที่ต้องการใช้สไตล์การเทรดนี้ อาจต้องยืนยันสิ่งต่อไปนี้:

• ตั้งค่าระดับ Stop Loss และ Take Profit ที่เหมาะสม ในการตั้งค่าเหล่านี้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณรู้ผลลัพธ์ที่คุณต้องการบรรลุจากการเทรดของคุณ ขีดจำกัด Stop Loss และ Take Profit ต้องเป็นไปตามแผนการเทรด เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่มากเกินไป และเพื่อออกจากเทรดทันเวลา
• สินทรัพย์จำนวนมากที่ต้องเฝ้าดู การค้นหาตลาดที่อาจมุ่งหน้าไปสู่ราคาทะลุกรอบนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป ดังนั้นการดูกราฟหลายๆ อันในเวลาเดียวกันอาจช่วยประหยัดเวลาให้นักเทรดและให้โอกาสที่เป็นไปได้ในการทำงานด้วย
• ความอดทนและจิตวิทยาการเทรดที่ดี การเทรดราคาทะลุกรอบอาจเป็นงานที่ท้าทาย ดังนั้นการปล่อยให้อารมณ์เข้ามาเกี่ยวเป็นเรื่องอันตราย มันอาจจะดีกว่าที่จะพลาดดีลมากกว่าทำผิดพลาดที่เสียหาย ดังนั้นให้ตรวจสอบอารมณ์ของคุณอยู่เสมอ

สรุปส่งท้าย

การเทรดราคาทะลุกรอบอาจเป็นแนวทางที่นักเทรดต้องใช้งานด้วยการใช้รูปแบบกราฟ ตัวชี้วัดทางเทคนิค หรือข่าวเศรษฐกิจ วิธีนี้อาจช่วยให้นักเทรดมีเครื่องบ่งชี้ในการเข้าสู่ตลาด แต่สำหรับแนวทางการเทรดใดๆ จำเป็นต้องมีการฝึกฝนและการรับรู้ถึงความเสี่ยง คุณอาจลองกำหนดแนวรับและแนวต้านในบัญชีทดลอง เพื่อปรับปรุงความเข้าใจของคุณเกี่ยวกับวิธีราคาทะลุกรอบ แต่อย่าลืมนึกถึงเคล็ดลับการจัดการความเสี่ยงที่อธิบายไว้ข้างต้นอยู่ตลอดเวลา!