ในการเทรดฟอเร็กซ์มีตัวชี้วัดทางเทคนิคมากมายที่สามารถใช้หาแนวโน้ม จุดกลับตัวที่จะเกิดขึ้น รวมถึงระดับขายมากเกินไป (oversold) หรือซื้อมากเกินไป (overbought) ซึ่งข้อมูลเหล่านี้อาจมีความสำคัญต่อการตัดสินใจเทรด ดังนั้นการเลือกตัวชี้วัดที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการเทรดฟอเร็กซ์จึงเป็นสิ่งสำคัญมากเพื่อให้เราได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ในบทความนี้ เราจะมาดู 5 ตัวชี้วัดทางเทคนิคยอดนิยมตัวสำหรับการเทรดและชุดตัวชี้วัดที่ใช้งานร่วมกันได้ดี เมื่อเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องมือเหล่านี้และนำไปทดสอบ คุณจะสามารถเลือกตราสารที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแนวทางการเทรดตนเองได้
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average)
ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่เป็นเครื่องมือง่ายๆ ที่นักเทรดหลายๆ คนใช้วิเคราะห์ทางเทคนิคในตลาดฟอเร็กซ์ ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดตามแนวโน้ม เป้าหมายหลักของการใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่คือ หาทิศทางแนวโน้ม (ขึ้นหรือลง)
✍️
ในการเทรดฟอเร็กซ์สามารถใช้ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ตัวเดียว หรือใช้ร่วมกับตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่นๆ ก็ได้
โบลินเจอร์ แบนด์ (Bollinger Bands)
ตัวชี้วัด Bollinger Bands ประกอบด้วยเส้น 3 เส้น ได้แก่ เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่อย่างง่าย (สีส้ม) และเส้น Band 2 เส้น (สีแดงและสีเหลือง) ที่ปรากฏด้านบนและด้านล่างเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ซึ่งจะกำหนดระดับซื้อมากเกินไปและระดับขายมากเกินไป ซึ่งอาจบ่งบอกถึงการกลับตัวของแนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้น
✍️
ในทางกลับกัน หากกราฟราคาเข้าใกล้ Band ล่าง และแตะเส้นดังกล่าว อาจชี้ให้เห็นว่าสินทรัพย์ถูกขายมากเกินไป (Oversold) ในกรณีนี้ ราคาอาจขยับขึ้น
การกลับตัวของแนวโน้มอาจเกิดขึ้นเมื่อแท่งเทียนของกราฟราคาข้ามเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
Bollinger Bands อาจไม่ใช่ตัวชี้วัดการเทรดฟอเร็กซ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดหากใช้เพียงอย่างเดียว แต่อาจมีประโยชน์มากเมื่อใช้ร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ เช่น RSI
Relative Strength Indicator (RSI) หรือดัชนีกำลังสัมพัทธ์
RSI เป็นออสซิลเลเตอร์ที่อาจช่วยให้นักเทรดประเมินความแข็งแกร่งของเทรนด์และมองเห็นการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะเคลื่อนที่ในระดับตั้งแต่ 0 ถึง 100 โดยให้ข้อมูลเกี่ยวกับระดับการซื้อมากเกินไปและการขายมากเกินไป
✍️
ในทางตรงกันข้าม เมื่อเส้น RSI ข้าม 30 สินทรัพย์อาจถูกมองว่าขายมากเกินไป (Oversold) นั่นคือจังหวะที่นักเทรดอาจคาดการณ์การกลับตัวเป็นแนวโน้มขาขึ้น
Average True Range (ATR)
ตัวชี้วด ATR เป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพที่ใช้โดยทั่วไปในการวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับตลาดฟอเร็กซ์ สามารถช่วยวัดความผันผวนของตลาด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนดว่าแนวโน้มปัจจุบันจะดำเนินต่อไปหรือไม่
✍️
หากกิจกรรมทางการตลาดลดลง เส้น ATR ก็จะลดลงตามไปด้วย เมื่อนักเทรดเรียนรู้การประเมินความผันผวนของตลาดก็จะสามารถเลือกจุดเข้าออกที่เหมาะสมที่สุดได้
Parabolic SAR
จุดประสงค์หลักของตัวชี้วัดนี้คือช่วยกำหนดทิศทางของแนวโน้มและชี้ให้เห็นการกลับตัวที่อาจเกิดขึ้น ซึ่งจะแสดงบนกราฟราคาเป็นชุดของจุดที่อยู่ด้านล่างหรือด้านบน
✍️
หากจุด Parabolic SAR อยู่เหนือกราฟราคา อาจบ่งบอกถึงแนวโน้มขาลงที่ตามมา เมื่อจุดต่างๆ ขยับใต้กราฟ อาจบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่จะเกิดขึ้น สิ่งเหล่านี้อาจให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์และชี้ให้เห็นโอกาสเทรดได้
นอกจากนี้ Parabolic SAR ยังให้ข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมในตลาดฟอเร็กซ์เมื่อใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่นๆ เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่
การผสมตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ดีที่สุดสำหรับการเทรดฟอเร็กซ์
มีตัวชี้ฟอเร็กซ์ไม่กี่ตัวที่ใช้งานร่วมกันได้ดี การใช้เครื่องมือหลายอย่างพร้อมกันอาจให้ความแม่นยำมากขึ้นและให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับราคาสินทรัพย์ นี่คือตัวอย่างของชุดตัวชี้วัดฟอเร็กซ์ที่เป็นที่นิยม
RSI + Bollinger Bands
การใช้ตัวชี้ทางเทคนิค 2 ตัวนี้ร่วมกันอาจช่วยให้นักเทรดหาจังหวะที่เหมาะสมในการเปิดสถานะ Long (ซื้อ) หรือ Short (ขาย) ตามความต้องการของนักเทรด
หากกราฟราคาตัดเส้นล่างของ Bollinger Bands ขณะที่ RSI ข้ามระดับ Oversold และขยับขึ้น อาจบ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้น
เมื่อแท่งเทียนไปถึงเส้นบนสุดของ Bollinger Bands โดยมี RSI ที่ระดับซื้อมากเกินไป อาจส่งสัญญาณถึงแนวโน้มขาลง
จำไว้ว่าไม่มีตัวชี้วัดทางเทคนิคสำหรับการเทรดฟอเร็กซ์หรือชุดตัวชี้วัดใดที่สามารถให้ผลลัพธ์แม่นยำ 100% ดังนั้นอย่าลืมใช้ระดับ Stop-Loss และ Take-Profit ที่เหมาะสมในการเทรด